ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (10 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน ส่วนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวกติดต่อกันวันที่ 2 ขานรับการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,736.96 จุด ลดลง 92.63 จุด หรือ -0.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,495.52 จุด เพิ่มขึ้น 24.47 จุด หรือ +0.45% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,025.88 จุด เพิ่มขึ้น 141.28 จุด หรือ +0.84%
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง หลังจากเดวิด โซโลมอน ซีอีโอของโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดการณ์ว่า รายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งของธนาคารอาจจะลดลง 10% ในไตรมาสนี้ และหลังจากเจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) ได้ปรับลดคาดการณ์รายได้จากดอกเบี้ย
ทั้งนี้ หุ้น JPMorgan Chase ร่วงลง 5.2% หุ้น Goldman Sachs ร่วงลง 4.3% หุ้น Citigroup ร่วงลง 2.7% หุ้น Wells Fargo ลดลง 1.2% หุ้น Morgan Stanley ร่วงลง 1.59%
คำเตือนจากโกลด์แมน แซคส์ และเจพีมอร์แกน ส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของภาคธนาคาร และยังได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า หน่วยงานกำกับดูแลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแผนที่จะผ่อนคลายกฎระเบียบในการเพิ่มทุนของธนาคารขนาดใหญ่
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงกว่า 4% อันเนื่องมาจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้และปีหน้า ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันจากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก
ทั้งนี้ หุ้น Exxon Mobil ร่วงลง 3.6% หุ้น Chevron ลดลง 1.5% หุ้น Occidental Petroleum ลดลง 1.12% และหุ้น ConocoPhillips ร่วงลง 1.5%
หุ้นแอปเปิ้ล (Apple) ปรับตัวลง 0.36% หลังจากศาลยุติธรรมแห่งยุโรป (ECJ) ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของยุโรป มีคำพิพากษาให้บริษัทแอปเปิ้ลจ่ายภาษีย้อนหลังประมาณ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่รัฐบาลไอร์แลนด์ หลังการต่อสู้ทางกฎหมายที่ใช้เวลานานถึง 10 ปี
อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 1.5% หุ้น Microsoft พุ่งขึ้น 2.1% หุ้น Alphabet บวก 0.3% หุ้น AMD พุ่งขึ้น 3.4%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ของสหรัฐฯ ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนก.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามการประชันวิสัยทัศน์ หรือดีเบต ระหว่างคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ คู่ชิงจากพรรครีพับลิกัน ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย (11 ก.ย.)
รายงานล่าสุดระบุว่า พนักงานบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่งของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงพนักงานของอัลฟาเบท (Alphabet), อะเมซอน (Amazon) และไมโครซอฟท์ (Microsoft) ให้การสนับสนุนคามาลา แฮร์ริส อย่างท่วมท้น
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์