ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (6 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป (UnitedHealth Group) ซึ่งร่วงลง 5.1% ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานซึ่งบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเดือนนี้
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,642.52 จุด ลดลง 123.19 จุด หรือ -0.28%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,090.27 จุด เพิ่มขึ้น 15.16 จุด หรือ +0.25% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,859.77 จุด เพิ่มขึ้น 159.05 จุด หรือ +0.81%
ดัชนี S&P500 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นครั้งที่ 57 ของปีนี้ ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นครั้งที่ 36 ของปีนี้
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.6%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้นประมาณ 1% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 3.3%
หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยในดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 2.4% ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้น ลูลูเลมอน แอธเลติกา ( Lululemon Athletica) บริษัทผลิตชุดกีฬา ซึ่งพุ่งขึ้น 15.9% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ทั้งปี
นอกจากนี้ หุ้นอัลตา บิวตี (Ulta Beauty) บริษัทร้านค้าปลีกเครื่องสำอาง พุ่งขึ้น 9% หลังจากที่บริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรประจำปี
รายงานจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าการเติบโตของการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน แต่การเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงานที่ 4.2% ชี้ให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่เริ่มผ่อนคลายลง
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 202,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 36,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนเฮลีนและมิลตันที่พัดถล่มสหรัฐ รวมทั้งการผละงานประท้วงของพนักงานบริษัทโบอิ้ง
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.2% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 4.1% ในเดือนต.ค.
“ข้อมูลนี้สนับสนุนกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมเดือนธ.ค.นี้และในไตรมาสแรก” บิล นอร์ธีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนอาวุโสของยูเอส แบงก์ เวลธ์ แมเนจเมนต์ (U.S. Bank Wealth Management) กล่าว
หลังการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานดังกล่าว สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าของสหรัฐฯ ปรับตัวรับโอกาสประมาณ 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่คาดว่ามีโอกาสเพียง 72%
เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.75% แล้วนับตั้งแต่เดือนก.ย.เมื่อเริ่มต้นวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ด้านมิเชล โบว์แมน ผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ ซึ่งบ่งชี้ถึงความระมัดระวังในการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
หุ้นของบริษัทประกันสุขภาพ รวมถึงยูไนเต็ดเฮลธ์ ยังคงปรับตัวลงต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า หลังจากที่ไบรอัน ธอมป์สัน ซีอีโอของหน่วยประกันสุขภาพของยูไนเต็ดเฮลธ์ถูกยิงเสียชีวิตนอกโรงแรมในแมนฮัตตัน
ผู้ก่อเหตุยังคงหลบหนีอยู่ และยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุ โดยการเสียชีวิตครั้งนี้ทำให้เกิดการแสดงความคิดเห็นในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับความไม่พอใจในระบบประกันสุขภาพของสหรัฐฯ
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นอื่น ๆ นั้น หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส (Meta Platforms) เจ้าของเฟซบุ๊ก (Facebook) พุ่งขึ้น 2.4% หลังจากที่ศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯ ตัดสินสนับสนุนกฎหมายที่กำหนดให้ไบต์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทของจีนต้องขายติ๊กต๊อก (TikTok) แอปวิดีโอสั้นยอดนิยมภายในต้นปีหน้า มิฉะนั้นจะเผชิญกับการถูกแบน ดัชนีความผันผวน (Cboe Volatility Index) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความวิตกในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดลง 0.77 จุด แตะ 12.77 ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค.
ที่มา สํานักข่าวอินโฟเควสท์