Desktop 1550x550 13

แนวโน้มตลาดและการลงทุน

Market Focus Weekly 24-02-68

24 กุมภาพันธ์ 2568|08:38 น.

ทองคำพุ่งสูง! ทรัมป์จุดกระแส Repeg ทองคำ ท่ามกลางสงครามการค้า

Gold Bullish

  • ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น
  • ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง
  • ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้ารอบใหม่

Gold Bearish

  • เฟดชะลอการปรับลดดอกเบี้ย

ทองคำพุ่งสูง! ทรัมป์จุดกระแส Repeg ทองคำ ท่ามกลางสงครามการค้า

ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า ซึ่งก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้ากับจีน ทำให้จีนได้มีการตอบโต้กลับ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. นอกจากนี้ทรัมป์ยังทำสงครามการค้ากับทุกประเทศ โดยทรัมป์ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมเป็นอัตรา 25% โดยไม่มีข้อยกเว้นสำหรับประเทศใด ๆ ทั้งสิ้น มาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลว่าเป็นการปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศและลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ และล่าสุดทรัมป์จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์และยาในอัตรา 25% ซึ่งความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่เกิดขึ้น อาจทำให้เกิดสงครามการค้าขยายวงกว้าง เกิดการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทาน เพิ่มความตึงเครียดทางการค้าและส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ปัจจัยดังกล่าวยังคงติดตามต่อเนื่องในสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามเพิ่มเติม ได้แก่ การเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวผู้แทนรัสเซีย-สหรัฐจะประชุมเรื่องยุติสงครามยูเครนอีกครั้งใน 2 สัปดาห์หน้า และกระแสข่าวเกี่ยวกับทรัมป์จะทำการ repeg ทองคำสำรองทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาถือครอง

ทรัมป์กับแนวคิด Repeg ทองคำ: มีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่?

ในช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำการ repeg ทองคำสำรองทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาถือครอง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าทรัมป์มีแผนดำเนินการในเรื่องนี้ แต่มีรายงานว่าเขาและอีลอน มัสก์ อาจต้องการตรวจสอบปริมาณทองคำที่ Fort Knox เพื่อยืนยันว่าทองคำสำรองของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ครบถ้วน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าข่าวการที่ทรัมป์ให้มีการตรวจสอบทอง ในฟอร์ดน็อค น่าจะเป็นประเด็นพอสมควร เพราะที่ผ่านมา ในช่วงที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก ทรัมป์มีความพยายามที่จะให้มีการตรวจสอบทองคำ ว่ามีอยู่จริงหรือไม่ โดยในช่วงที่หาเสียง ช่วงก่อนเป็นประธานาธิบดีสมัยแรกนั้น ทรัมป์เคยพูดในลักษณะที่ทำให้เห็นว่าเขาชื่นชมในระบบ Gold Standard แต่เขาพูดในภายหลังว่า ประเด็นสำคัญคือสหรัฐมีทองจริงหรือเปล่า ตรงนี้น่าจะเป็นเหตุที่ทรัมป์พยายามจะตรวจสอบทองคำว่ามีอยู่จริงครบตามจำนวนที่มีการรายงานหรือไม่

แม้ว่าทรัมป์และกลุ่มที่สนับสนุนแนวคิดระบบ Gold Standard นี้อาจมองว่าเป็นวิธีฟื้นฟูเสถียรภาพของดอลลาร์และลดอิทธิพลของเฟด แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นจริงนั้น มีน้อยมาก เนื่องจาก ปริมาณทองคำสำรองของสหรัฐฯ ไม่เพียงพอ – ปัจจุบัน สหรัฐฯ ถือครองทองคำสำรองประมาณ 8,133 ตัน  แต่ปริมาณเงินดอลลาร์ที่หมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจมีขนาดใหญ่กว่านั้นหลายเท่า การกลับไปใช้ระบบมาตรฐานทองคำจะสร้างข้อจำกัดมหาศาลต่อระบบการเงิน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออำนาจของเฟด

หรือแม้แต่การ pegging ดอลลาร์กับทองคำก็อาจจะลดความสามารถของธนาคารกลางในการกำหนดนโยบายการเงิน ซึ่งอาจสร้างปัญหาต่อการควบคุมเงินเฟ้อและการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเกิดแรงกดดันทางการเมืองและเศรษฐกิจ – แม้พรรครีพับลิกันบางกลุ่มสนับสนุนแนวคิดนี้ แต่แรงกดดันจากนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ นักลงทุน และหน่วยงานกำกับดูแลจะทำให้แนวคิดนี้เผชิญกับความท้าทายอย่างหนัก

หากทรัมป์ต้องการเดินหน้ากลับไปใช้ระบบ Gold Standard จริง เขาอาจต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เช่น การเพิ่มปริมาณทองคำสำรองของสหรัฐฯ ได้แก่  ซื้อทองคำในตลาดโลก บังคับให้ประชาชนขายทองคำให้รัฐบาล เก็บภาษีหรือจำกัดการถือครองทองคำส่วนตัว แต่กรณีนี้นั้นการบังคับซื้อทองคำจากประชาชนอาจถูกต่อต้านอย่างหนัก และหากรัฐบาลซื้อทองคำจำนวนมากในตลาด อาจกระทบต่อตลาดโลกและทำให้ราคาทองคำสูงขึ้น จนรัฐบาลไม่สามารถซื้อได้มากพอ

หรือ การกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ (Repeg)ถ้าทรัมป์ต้องการ pegging ดอลลาร์กับทองคำจริง เขาต้องกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ รวมถึงประกาศให้ดอลลาร์สามารถแลกเป็นทองคำได้  ซึ่งต้องมีทองคำสำรองเพียงพอ และ ปรับโครงสร้างหนี้สหรัฐฯ  เพราะหากอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่ามาก หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ อาจมีปัญหา ซึ่งปัจจุบัน ปริมาณเงินดอลลาร์ที่หมุนเวียนมีมากกว่าทองคำสำรองหลายเท่า การ pegging ดอลลาร์กับทองคำจะทำให้เกิดข้อจำกัดอย่างมาก และเฟดจะสูญเสียอำนาจในการกำหนดนโยบายการเงิน

อีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นไปได้ คือ ทรัมป์อาจผลักดันให้ใช้ เงินดิจิทัลที่อิงทองคำ (Gold-Backed Digital Dollar) ได้แก่ ออกสกุลเงินดิจิทัลของสหรัฐฯ คล้ายกับ CBDC (Central Bank Digital Currency) แต่มีทองคำค้ำประกัน ใช้ร่วมกับดอลลาร์เดิม  เพื่อเปลี่ยนผ่านระบบค่อยเป็นค่อยไป และ ส่งเสริมให้ประชาชนใช้เงินดิจิทัลแทนเงินสด วิธีนี้อาจมีนักการเมืองและนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากอาจไม่สนับสนุน เพราะอาจลดอำนาจของเฟดและอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดการเงินโลก

แนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์นี้

มีสัญญาณการย่อตัวลงของราคาทองคำ จึงยังคงต้องระวังการเข้าซื้อ จึงแนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 2,900 ดอลลาร์ และแนวรับ 2,870 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองคำมีแนวต้าน 2,960 ดอลลาร์ และ 2,980 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศมีแนวรับ 46,400 บาท และ 46,100 บาท ส่วนแนวต้าน 46,900 บาท และ 47,000 บาท

ดาวน์โหลดเอกสาร

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

 
Cover 1000x670 01

Daily Recap Gold Futures 24-02-2568

08:58 น.

 
Cover 1000x670 09

Daily Recap Gold Spot 24-02-2568

08:49 น.

 
Cover 1000x670 06

Derivative Recap 24-02-2568

08:42 น.

 
Cover 1000x670 02

Night Recap Gold Futures 21-02-2568

16:20 น.

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับเรา

พูดคุยกับเรา

พบเจอปัญหา หรือมีข้อสงสัย
ทักหาเราได้เลยที่นี่

เวลาทำการลูกค้าสัมพันธ์
จันทร์ - ศุกร์ 08.30 น. - 24.00 น.
เสาร์ - อาทิตย์ 08.30 น. - 17.30 น.

For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.

ตะกร้าสินค้า0
ไม่มีสินค้าในตะกร้า
เลือกซื้อสินค้าต่อ
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

You can choose your cookie settings by enabling/disabling cookies for each category as needed, except for necessary cookies.

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้เหล่านี้จำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์ เช่น การรักษาการล็อกอินของผู้ใช้ การบันทึกสินค้าที่เพิ่มลงในรถเข็น และการบันทึกการตั้งค่าภาษา
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ของบุคคลที่สามเพื่อการวิเคราะห์และการตลาด

    คุกกี้เหล่านี้ถูกตั้งค่าโดยบุคคลที่สาม เช่น ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลหรือผู้ให้บริการโฆษณา และใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์เว็บไซต์และการทำการตลาด
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้โฆษณาเพื่อแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจ

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อติดตามการใช้งานของผู้ใช้บนเว็บไซต์ต่าง ๆ และแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้มากขึ้น ซึ่งมักจะใช้โดยเครือข่ายโฆษณาภายนอก
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า