ข่าวสารการลงทุน

ดาวโจนส์ปิดบวก 426.16 จุด ขานรับข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจแกร่ง

24 พฤศจิกายน 2567|19:26 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (22 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างแข็งแกร่งในสหรัฐฯ ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก โดยทั้งดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้

          ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,296.51 จุด เพิ่มขึ้น 426.16 จุด หรือ +0.97%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,969.34 จุด เพิ่มขึ้น 20.63 จุด หรือ +0.35% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,003.65 จุด เพิ่มขึ้น 31.23 จุด หรือ +0.16%

          ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 1.96%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.68% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 1.73%

          ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดในรอบ 31 เดือนในเดือนพ.ย. โดยได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการออกนโยบายที่เป็นมิตรกับภาคธุรกิจมากขึ้นจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในปีหน้า

          เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.3 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 31 เดือน จากระดับ 54.1 ในเดือนต.ค.

          ดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐฯ

          หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 1.36% โดยเป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในดัชนี S&P500 ขณะที่กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลงมากที่สุด โดยลดลง 0.69%

          หุ้นแก๊ป อิงค์ (Gap Inc) พุ่งขึ้น 12.8% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายประจำปี และระบุว่า ช่วงเทศกาลวันหยุดได้เริ่มต้นขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

          อย่างไรก็ตาม หุ้นอัลฟาเบท (Alphabet) ร่วงลง 1.7% เนื่องจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้แจ้งกับผู้พิพากษาว่า อัลฟาเบทกำลังทำการผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์

          หุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ร่วงลง 3.2% ในการซื้อขายที่ผันผวน หลังเปิดเผยคาดการณ์ผลประกอบการรายไตรมาสเมื่อวันพุธ

          ดัชนีหุ้นคุณค่า (value stocks) ใน S&P500 ปรับตัวขึ้น 0.78% ขณะที่นักลงทุนย้ายการลงทุนออกจากหุ้นเติบโต (growth stocks)

          สำหรับการคาดการณ์เกี่ยวกับการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนธ.ค.นั้นเปลี่ยนไปมาระหว่างการคงอัตราดอกเบี้ย หรือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เนื่องจากนักลงทุนกำลังพิจารณาถึงผลกระทบที่เป็นไปได้จากแผนการของทรัมป์ที่อาจส่งผลต่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

          เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า มีโอกาส 59.6% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนธ.ค.

          ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังเป็นประเด็นสำคัญในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนติดตามสถานการณ์การยิงขีปนาวุธระหว่างยูเครนและรัสเซีย หลังจากรัสเซียปรับลดเงื่อนไขสำหรับการตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาดูการเลือกบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังในรัฐบาลทรัมป์ด้วย

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

 
ตลาดหุ้น

ดาวโจนส์ปิดลบ 154.10 จุด นักลงทุนจับตา CPI สหรัฐฯ

08:48 น.

 
ตลาดทองคำ

ทองปิดพุ่ง $32.60 รับคาดการณ์เฟดหั่นดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า

08:46 น.

 
ตลาดหุ้น

ดาวโจนส์ปิดลบ ขณะ S&P500-Nasdaq บวกรับคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย

17:54 น.

 
ตลาดทองคำ

ทองปิดบวก $11.20 ขานรับข้อมูลจ้างงานหนุนเฟดลดดอกเบี้ย

17:46 น.

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับเรา

พูดคุยกับเรา

พบเจอปัญหา หรือมีข้อสงสัย
ทักหาเราได้เลยที่นี่

เวลาทำการลูกค้าสัมพันธ์
จันทร์ - ศุกร์ 08.30 น. - 24.00 น.
เสาร์ - อาทิตย์ 08.30 น. - 17.30 น.

For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.

ตะกร้าสินค้า0
ไม่มีสินค้าในตะกร้า
เลือกซื้อสินค้าต่อ
This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.