ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (23 ก.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนซึ่งรวมถึงยูไนเต็ด พาร์เซิล เซอร์วิส (UPS) ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างอัลฟาเบทและเทสลา รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,358.09 จุด ลดลง 57.35 จุด หรือ -0.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,555.74 จุด ลดลง 8.67 จุด หรือ -0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,997.35 จุด ลดลง 10.22 จุด หรือ -0.06%
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.55% ตามด้วยดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวลง 0.65% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุดีดตัวขึ้นมากที่สุด โดยปรับตัวขึ้น 0.38%
ในช่วงแรก ดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็เคลื่อนไหวในแดนบวก โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทแอปเปิ้ล, ไมโครซอฟท์, เมตา แพลตฟอร์มส์ และอะเมซอนดอทคอม แต่ตลาดอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา หลังจากบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
หุ้น UPS ซึ่งเป็นบริษัทรับส่งพัสดุภัณฑ์รายใหญ่และผลประกอบการของบริษัทถือเป็นสัญญาณบ่งชี้สภาวะเศรษฐกิจโลก ร่วงลง 12.1% ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 2.180 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 2.218 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากอุปสงค์การส่งพัสดุภัณฑ์ชะลอตัวลงและต้นทุนแรงงานที่ปรับตัวสูงขึ้น
หุ้นคอมแคสต์ ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 2.6% หลังบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 2.969 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 3.002 หมื่นล้านดอลลาร์ และลูกค้าที่ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของบริษัทมีจำนวนลดลง 120,000 ราย
หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ร่วงลง 6.4% โดยแม้ว่าบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2/2567 แต่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่ GM ขาดทุนอย่างต่อเนื่องในจีน
หุ้นโคคา-โคลา ดีดตัวขึ้น 0.3% หลังบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 1.236 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.176 หมื่นล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทอัลฟาเบทและเทสลาซึ่งจะมีการเปิดเผยหลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการ โดยผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จะเป็นตัวกำหนดว่าหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีจะสามารถทำสถิติแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในปีนี้ได้หรือไม่
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 5.4% สู่ระดับ 3.89 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2566 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.99 ล้านยูนิต
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2567 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) รวมทั้งจับตาสถานการณ์การเมืองในสหรัฐ โดยล่าสุดนายเอริก ชมิตต์ สมาชิกวุฒิสภาสังกัดพรรครีพับลิกัน และนางแนนซี เมซ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการบังคับใช้บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขครั้งที่ 25 เพื่อถอดถอนโจ ไบเดนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี เนื่องจากเขาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์