ข่าวสารการลงทุน

ดาวโจนส์ปิดบวก 66.69 จุด หุ้นเทคโนโลยีพุ่งหนุนตลาด

24 ธันวาคม 2567|08:18 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (23 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง หรือ “Magnificent Seven” ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายในตลาดที่เบาบาง เนื่องจากใกล้ถึงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส

          ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,906.95 จุด เพิ่มขึ้น 66.69 จุด หรือ +0.16%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,974.07 จุด เพิ่มขึ้น 43.22 จุด หรือ +0.73% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,764.89 จุด เพิ่มขึ้น 192.29 จุด หรือ +0.98%

          ในช่วงแรก ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 300 จุด หลังจาก Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับ 104.7 ในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 113.8 จากระดับ 112.8 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ เป็นการสำรวจความเชื่อมั่นที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและในช่วง 6 เดือนข้างหน้า รวมทั้งสถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน

          อย่างไรก็ดี ความแข็งแกร่งของหุ้นบริษัทเทคโนโลยีในกลุ่ม “Magnificent Seven” เป็นปัจจัยหนุนดัชนีดาวโจนส์ และ Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 และช่วยหนุนดัชนี S&P 500 ปิดบวกติดต่อกันวันที่ 2 โดยหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ทะยานขึ้น 3.7% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส (Meta Platforms) พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นเทสลา (Tesla) ดีดตัวขึ้น 2.2% ส่วนหุ้นอะเมซอน (Amazon) หุ้นแอปเปิ้ล (Apple) และหุ้นอัลฟาเบท (Alphabet) ปิดในแดนบวกเช่นกัน

          ส่วนปริมาณการซื้อขายในวันจันทร์อยู่ที่ 1.276 หมื่นล้านหุ้น ลดลงจากค่าเฉลี่ย 1.489 หมื่นล้านหุ้นในช่วง 20 วันทำการก่อนหน้านี้ เนื่องจากใกล้ถึงวันหยุด โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเปิดการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันนี้ (24 ธ.ค.) ก่อนที่จะปิดทำการในวันพุธที่ 25 ธ.ค. เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส

          ในช่วงที่ผ่านมา ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน โดยหลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งนับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. ตลาดก็ร่วงลงอย่างหนักในเดือนนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีหน้า จากเดิมที่ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดลง 4 ครั้ง

          อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งตามสถิติ โดยข้อมูลจาก Stock Traders Almanac ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2512 การซื้อขายในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปี รวมกับ 2 วันแรกของปีถัดไป ดัชนี S&P500 มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 1.3% ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เรียกว่า “ซานตาคลอส แรลลี่ (Santa Claus Rally)”

          หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารและกลุ่มเทคโนโลยี พุ่งขึ้น 1.35% และ 1.26% ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มวัสดุ ปรับตัวลง 0.57% และ 0.12% ตามลำดับ

          หุ้นอีไล ลิลลี่ (Eli Lilly) ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 3.7% หลังจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติการใช้ยาลดน้ำหนัก Zepbound สำหรับรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

          สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 5.9% สู่ระดับ 664,000 ยูนิตในเดือนพ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 660,000 ยูนิต จากระดับ 627,000 ยูนิตในเดือนต.ค.

          นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 1.1% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนต.ค.

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

 
ตลาดทองคำ

ดาวโจนส์ปิดบวก 134.13 จุด รับความหวังจีน-สหรัฐสงบศึกการค้า

08:59 น.

 
ตลาดทองคำ

ทองปิดพุ่ง $18.70 ทำนิวไฮ สงครามการค้าหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

08:56 น.

 
จีน

จีนโต้กลับ! ประกาศเก็บภาษีสินค้าบางรายการจากสหรัฐฯ 15% มีผล 10 ก.พ.

14:48 น.

 
ตลาดหุ้น

ดาวโจนส์ปิดลบ 122.75 จุด แต่ดัชนีลดช่วงลบหลังทรัมป์เบรกรีดภาษีเม็กซิโก

09:10 น.

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับเรา

พูดคุยกับเรา

พบเจอปัญหา หรือมีข้อสงสัย
ทักหาเราได้เลยที่นี่

เวลาทำการลูกค้าสัมพันธ์
จันทร์ - ศุกร์ 08.30 น. - 24.00 น.
เสาร์ - อาทิตย์ 08.30 น. - 17.30 น.

For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.

ตะกร้าสินค้า0
ไม่มีสินค้าในตะกร้า
เลือกซื้อสินค้าต่อ
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

You can choose your cookie settings by enabling/disabling cookies for each category as needed, except for necessary cookies.

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้เหล่านี้จำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์ เช่น การรักษาการล็อกอินของผู้ใช้ การบันทึกสินค้าที่เพิ่มลงในรถเข็น และการบันทึกการตั้งค่าภาษา
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ของบุคคลที่สามเพื่อการวิเคราะห์และการตลาด

    คุกกี้เหล่านี้ถูกตั้งค่าโดยบุคคลที่สาม เช่น ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลหรือผู้ให้บริการโฆษณา และใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์เว็บไซต์และการทำการตลาด
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้โฆษณาเพื่อแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจ

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อติดตามการใช้งานของผู้ใช้บนเว็บไซต์ต่าง ๆ และแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้มากขึ้น ซึ่งมักจะใช้โดยเครือข่ายโฆษณาภายนอก
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า