แนวโน้มราคาทอง
Sideways
- ราคาทองปรับตัวลง (-19.25) ดอลลาร์ คิดเป็น (-0.72%)
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,638 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,664 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,636 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 43,150 บาท
ต่ำสุด – 43,150 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
สัปดาห์ก่อนราคาทองคำทำจุดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ซึ่งมีแรงซื้อทองคำจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่วันศุกร์ราคาทองคำปรับตัวลดลง จากแรงกดดันเงินดอลลาร์แข็งค่า จากการคาดว่าเฟดอาจจะชะลอการปรับลดดอกเบี้ย และนโยบายของทรัมป์ที่สนับสนุนการเพิ่มภาษีศุลกากรจะหนุนดอลลาร์แข็งค่า ส่วนกองทุน SPDR ขายทองคำ 1.44 ตันในสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนธ.ค. โดยมาร์กิต ตลาดคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 58.5 และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ย. ตลาดคาดวาจะลดลง 0.3% จากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำปรับตัวลงเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 2,635-2,640 ดอลลาร์ ซึ่งหากยืนเหนือบริเวณแนวรับดังกล่าวได้ อาจทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น แต่คาดว่าการฟื้นตัวมีกรอบจำกัด ซึ่งราคาทองคำอาจยังเคลื่อนไหวในกรอบ 2,635-2,650 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,635 และ 2,620 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,650 และ 2,660 ดอลลาร์
แนะนำซื้อขายตามกรอบแนวรับแนวต้าน โดยสามารถเข้าซื้อบริเวณ 2,635 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,620 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 43,000 และ 42,900 บาท
แนวต้าน : 43,250 และ 43,350 บาท
แม้ว่าช่วงวันศุกร์ราคาทองคำโลกจะปรับตัวลง แต่ราคาทองคำแท่งยังสามารถยืนเหนือ 43,000 บาทขึ้นไป จากแรงหนุนเงินบาทอ่อนค่า ทั้งนี้หากราคาทองคำแท่งยังไม่หลุดแนวรับดังกล่าว ก็ยังมีโอกาสที่ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นต่อได้ แนะนำ Let Profit Run