แนวโน้มราคาทอง
อาจลงทดสอบ $2,890
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +2.27 ดอลลาร์ คิดเป็น +0.08%
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,918 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,929 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,894 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 46,550 บาท
ต่ำสุด – 46,450 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองเคลื่อนไหวกรอบแคบเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2.2 ดอลลาร์ ดอลลาร์อ่อนค่ายังช่วยหนุนราคาทองคำ เนื่องจากการจ้างงานภาคเอกชน ADP เดือนก.พ. เพิ่มขึ้นเพียง 77,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2567 และต่ำกว่าตลาดคาดที่ 141,000 ตำแหน่ง และแบบจำลอง GDPNow ล่าสุดคาดเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 1 หดตัว 2.8% แต่ดัชนี PMI ภาคบริการของ ISM เดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 53.3 สูงกว่าตลาดคาดที่ 52.5 และความกังวลสงครามการค้าโลกลดลงทำให้มีแรงเทขายทองคำ หลังสหรัฐอาจเจรจากับแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งได้เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25%
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ ECB จะมีการประกาศดอกเบี้ย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าอาจปรับลดลงจาก 2.90% ลงเหลือ 2.65% และต่อด้วยการแถลงการณ์จากประธาน และรองประธานของ ECB ขณะที่ทางด้านสหรัฐฯ จะมีการประกาศตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกที่ปรับตัวขึ้นมา ยังคงต้องเผชิญกับแรงขายจากแนวต้านสำคัญจากแนวต้านที่ $2,930 ในช่วงเช้านี้ราคาทองโลกเริ่มย่อตัวลงอีกครั้ง ซึ่งยังคงประเมินว่ามีโอกาสลงทดสอบ $2,890 อีกครั้ง และอาจมีแรงซื้อกลับจากแนวรับสำคัญดังกล่าว
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,880 และ 2,855 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,930 และ 2,950 ดอลลาร์
ราคาทองโลก ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ระดับ 2,930 ดอลลาร์ และยังคงซื้อขายบริเวณแนวต้าน ซึ่งยังประเมินว่าเป็นจังหวะในการแบ่งขายทำกำไร และแนะนำซื้อสะสม หากราคาย่อตัวลงทดสอบแนวรับที่ 2,880 ดอลลาร์ โดยมีเป้าทำกำไรที่ 2,930 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ระดับ 2,855 ดอลลาร์ลงไป
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 46,200 และ 45,900 บาท
แนวต้าน : 46,700 และ 47,000 บาท
ราคาทองคำในประเทศ ยังคงได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคา ณ ระดับนี้ประเมินว่าเป็นจังหวะทำกำไรมากกว่า แนะนำรอซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นที่บริเวณแนวรับแรกที่ 46,200 บาท โดยมีเป้าทำกำไรที่ 46,700 บาท และตัดขาดทุนหากหลุดแนวรับที่ 45,900 บาท