แนวโน้มราคาทอง
ขาขึ้น แต่ระวังแรงเทขาย
- ราคาทองปรับตัวลง (-10.43) ดอลลาร์ คิดเป็น (-0.36%)
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,855 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,873 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,834 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 45,650 บาท
ต่ำสุด – 45,600 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ทองคำมีแรงเทขายทำกำไรออกมา หลังจากที่ปรับตัวขึ้นแรงหลายวันติดต่อกัน
แม้สกุลเงินดอลลาร์ได้อ่อนค่าลง หลังจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 11,000 ราย สู่ระดับ 219,000 ราย และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานสหรัฐคืนนี้ รวมถึงยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งล่าสุดปธน.ทรัมป์ไม่รีบร้อนที่จะพูดคุยกับผู้นำจีน ทำให้สถานการณ์อาจยังไม่ได้คลี่คลายในเร็ววัน ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. อัตราการว่างงานเดือนม.ค. ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.ของม.มิชิแกน (เบื้องต้น)
วิเคราะห์ราคาทอง
มีแรงเทขายทำกำไร แต่ก็ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามา และยังไม่มีสัญญาณกลับตัว แม้ Modified Stochastic เข้าสู่ Overbought ขณะที่ MACD Histogram ยังเป็นบวก แต่ถ้าหาก Histogram เริ่มลดลง อาจเป็นสัญญาณว่าโมเมนตัมขาขึ้นเริ่มอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น (Uptrend) แต่ให้ระวังแรงเทขายทำกำไร
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,845 และ 2,835 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,870 และ 2,882 ดอลลาร์
แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) แต่ให้ระวังแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น และยังไม่เกิดสัญญาณกลับตัวที่ชัดเจน แต่เริ่มเห็นแรงขายมากขึ้น แนะนำรอจังหวะย่อตัว (Buy on Dip) เข้าใกล้แนวรับ $2,845 เป้าหมายทำกำไรระยะสั้น $2,880 – $2,900 โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ $2,835
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 45,500 และ 45,400 บาท
แนวต้าน : 45,800 และ 46,000 บาท
แนวโน้มราคาทองคำแท่งยังเป็นขาขึ้น อย่างไรก็ตาม มีแนวต้านจิตวิทยาที่ 46,000 บาท ให้ระวังแรงเทขายทำกำไร เนื่องจาก Modified Stochastic เข้าสู่ Overbought อาจมีการพักฐานสั้นๆ แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อเพิ่มถ้ามีการย่อตัวลงมา