แนวโน้มราคาทอง
ปรับตัวลง
- ราคาทองปรับตัวลง (-10.64) ดอลลาร์ คิดเป็น (-0.40%)
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,642 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,659 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,637 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 41,950 บาท
ต่ำสุด – 41,800 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากแรงกดดันเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างมาก โดยตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาสน้อยที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ย. นอกจากนี้สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังไม่ขยายวงกว้างขึ้น แต่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ที่อาจกระทบต่อราคาน้ำมัน ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนส.ค. ตลาดคาดว่าขาดดุล 70.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากขาดดุล 78.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
วิเคราะห์ราคาทอง
สัญญาณทางเทคนิคจาก MACD ยังคงเกิด Bearish MACD และจาก
Modified Stochastic ยังคงเกิดเส้นตัดกันลงมา ซึ่งยังคงสัญญาณแนวโน้มปรับตัวลงของราคาทองคำโลก โดยคาดว่ามีโอกาสที่ราคาทองคำปรับตัวลงสู่แนวรับ 2,628-2,630 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,635 และ 2,630 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,650 และ 2,660 ดอลลาร์
สัญญาณทางเทคนิคยังคงบ่งชี้การปรับตัวลง แต่คาดว่าการปรับตัวลงของราคาทองคำอาจจะไม่มากนัก สามารถเปิดทำกำไรระยะสั้น โดยเปิดสถานะขายบริเวณ 2,650 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,660 ดอลลาร์ และ Take profit บริเวณ 2,630 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 41,800 และ 41,750 บาท
แนวต้าน : 41,950 และ 42,050 บาท
ราคาทองคำแท่งยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเข้าใกล้ 42,000 บาท ซึ่งสัญญาณทางเทคนิคยังบังชี้การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำแท่ง แต่ก็เริ่มเข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นยังคงคาดว่าราคาทองคำแท่งมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น ซึ่งราคาทองคำแท่งได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ซึ่งเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าได้ต่อ
แนะนำ Let Profit Run
