แนวโน้มราคาทอง
ช่วงเช้าอาจฟื้นตัวสั้นๆ
- ราคาทองปรับตัวลง (-0.07) ดอลลาร์ คิดเป็น (-0.002%)
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,982 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 3,022 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,974 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 49,550 บาท
ต่ำสุด – 49,100 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทอง Spot เคลื่อนไหวผันผวนมาก หลังจากแรงซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและฟื้นตัวขึ้นทะลุ $3,000 จากความกังวลเศรษฐกิจถดถอยจากสงครามการค้าโลกรุนแรง แต่ในที่สุดมีแรงเทขายออกมา ทำให้ราคาทองปิดตลาดทรงตัว ทรัมป์จะบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เม.ย. ตามกำหนด ซึ่งก่อนหน้านี้ทรัมป์อาจจะเลื่อนหรือผ่อนปรนการเก็บภาษี การตอบโต้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนรุนแรง ซึ่งสหรัฐฯ จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 104% ในวันพุธที่ 9 เม.ย. เวลา 00.01 น.ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับเวลา 11.01 น.ตามเวลาไทย กองทุน SPDR ขายทองติดต่อกันเป็นวันที่ 3 อีก 0.86 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขสำคัญจากทางสหรัฐฯ แต่จะมีการแถลงจาก ผู้ว่าการ ธ.กลางญี่ปุ่น ในวันนี้ และในช่วงค่ำ จะมีการแถลงจาก ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก และสาขาริชมอนด์
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกที่ย่อตัวลงมา ยังคงติดแนวรับบริเวณระดับ 2,970 ดอลลาร์ คาดฟื้นตัวสั้นๆขึ้นทดสอบ 3,005 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อาจส่งราคาทองโลก กลับตัวลงอีกครั้ง
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,950 และ 2,920 ดอลลาร์
แนวต้าน : 3,005 และ 3,035 ดอลลาร์
ราคาทองโลกที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ อาจยังคงติดแนวต้านสำคัญที่ระดับ 3,005 ดอลลาร์ ซึ่งแนะนำแบ่งขายทำกำไรที่ระดับดังกล่าว และสำหรับนักลงทุนระยะสั้นอาจรอเข้าซื้อสะสมจากแนวรับที่ 2,950 ดอลลาร์ โดยมีเป้าทำกำไรที่ระดับ 3,005 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 2,920 ดอลลาร์ลงไป
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 48,650 และ 48,350 บาท
แนวต้าน : 49,550 และ 49,800 บาท
ราคาทองคำในประเทศ ต้องเผชิญกับแรงเทขายอีกครั้ง จึงอาจแบ่งขายทำกำไรก่อน และแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับ รอเข้าซื้อสะสมที่ระดับ 48,650 บาท โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ 49,550 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 48,350 บาทลงไป