แนวโน้มราคาทอง
ขาขึ้น แต่ระวังแรงเทขาย
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +4.28 ดอลลาร์ คิดเป็น +0.14%
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,860 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,886 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,852 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 45,750 บาท
ต่ำสุด – 45,750 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
สัปดาห์ก่อนราคาทองคำทำ All-time high จากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งจีนตอบโต้สหรัฐกลับ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. ขณะที่สงครามการค้าอาจขยายวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีแผนที่จะประกาศมาตรการภาษีตอบโต้กับหลายประเทศในสัปดาห์นี้ ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 3.73 ตันในสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
สัปดาห์นี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
แนวโน้มราคาทองคำยังคงขาขึ้น โดยราคาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หลายเส้น บ่งบอกถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็ตาม สัญญาณทางเทคนิคจาก Modified Stochastic เข้าสู่ Overbought ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าราคาทองคำอาจมีการปรับฐานในระยะสั้น ขณะที่เกิดแท่งเทียนที่มีไส้ด้านบนยาว สะท้อนแรงขายที่เกิดขึ้น จึงยังคงให้ระวังแรงขาย
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,860 และ 2,855 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,886 และ 2,900 ดอลลาร์
MACD เป็นบวก แต่ Modified Stochastic เริ่มเข้าโซน Overbought ให้ระวังแรงเทขาย แนะนำรอให้ราคาปรับฐานใกล้แนวรับสำคัญ แล้วค่อยเข้าซื้อ บริเวณ $2,855 เป้าหมายทำกำไรระยะสั้น $2,886 – $2,900 โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ $2,845
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 45,800 และ 45,700 บาท
แนวต้าน : 46,100 และ 46,250 บาท
ราคาทองคำแท่งอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยมีการทำจุดสูงสุดใหม่ (New High) อย่างต่อเนื่อง และราคาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น ซึ่งบ่งบอกว่าโมเมนตัมขาขึ้นยังแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม อาจทยอยขายทำกำไรบางส่วน เพราะราคาทองคำแท่งเข้าสู่ Overbought ให้ระวังการปรับฐานเกิดขึ้น