แนวโน้มราคาทอง
เคลื่อนไหวกรอบแคบลง
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +9.9ดอลลาร์ คิดเป็น +0.39%
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,515 ดอลลาร์
Gold Spot
สูงสุด – 2,518 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,500 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 40,150 บาท
ต่ำสุด – 40,050 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 อย่างไรก็ตามราคาทองคำปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด ทั้งนี้ Bond Yield สหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงในระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน ขณะที่นักลงทุนรอติดตามการดีเบตระหว่างอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตในช่วงเช้านี้ และเงินเฟ้อ CPI คืนนี้ ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 1.72 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี จาก 2.9% เมื่อเทียบรายปี
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาทองคำยังคงติดแนวต้าน 2,530 ดอลลาร์ ทั้งนี้ราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวในกรอบที่แคบลงในช่วงกลางวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนรอดูตัวเลขเงินเฟ้อในคืนนี้ โดยราคาทองคำมีแนวรับ 2,500 ดอลลาร์ และมีแนวต้าน 2,520-2,530 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,500 และ 2,485 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,520 และ 2,530 ดอลลาร์
สามารถเทรดดิ้งระยะสั้นตามกรอบแนวรับแนวต้าน โดยแนะนำเปิด Short position บริเวณ 2,530 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,540 ดอลลาร์ หรือเข้าซื้อบริเวณ 2,485 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,470 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 39,950 และ 39,800 บาท
แนวต้าน : 40,150 และ 40,250 บาท
ราคาทองคำแท่งเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวเหนือบริเวณ 40,000 บาทเล็กน้อย โดยช่วงเช้าปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ช่วงบ่ายราคาทองคำแท่งถูกกดดันด้วยค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า ซึ่งในช่วงนี้เงินบาทมีทิศทางผันผวน จึงทำให้ราคาทองคำแท่งอาจเคลื่อนไหว Sideways ตามปัจจัยค่าเงินบาท หากเข้าซื้อทองคำแท่ง แนะนำเข้าซื้อบริเวณราคาต่ำกว่า 40,000 บาท