แนวโน้มราคาทอง
อาจมีแรงเทขายเล็กน้อย
- ราคาทองปรับตัวขึ้น (+33.94) ดอลลาร์ คิดเป็น (+1.13%)
- ปิดตลาดที่ระดับ 3,033 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 3,038 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,999 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 48,050 บาท
ต่ำสุด – 47,650 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำยังคงเดินหน้าปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องทะลุ 3,000 ดอลลาร์ ขึ้นไปทำ All-time high ที่ 3,038 ดอลลาร์ เนื่องจากความกังวลที่สงครามการค้ารุนแรงขึ้น ทรัมป์จะเรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ ในอัตรา 25% ตั้งแต่เดือนก.พ. และเตรียมใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariffs) ในวันที่ 2 เม.ย.นี้ รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ตลาดคาดว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับเท่าเดิม และการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ
วิเคราะห์ราคาทอง
เกิดแท่งเทียนสีเขียวแท่งยาว และราคาทองคำปิดใกล้ High ของวัน ใกล้ระดับสูงสุดของ All-time high ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคทั้ง MACD และ Modified Stochastic ยังส่งสัญญาณการปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามอาจมีแรงเทขายเล็กน้อย ทำให้อาจมีโอกาสย่อเล็กน้อยมาบริเวณ 3,015 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 3,015 และ 3,000 ดอลลาร์
แนวต้าน : 3,040 และ 3,060 ดอลลาร์
ยังไม่มีสัญญาณขายเกิดขึ้นอย่างชัดเจนจาก Modified Stochastic แต่อาจมีแรงเทขายทำกำไรออกมาบ้าง หากมีการเข้าซื้อไว้ให้ Let Profit Run หรือรอเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาทองคำย่อลงมาบริเวณที่ 3,015 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 3,000 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 47,900 และ 47,750 บาท
แนวต้าน : 48,300 และ 48,400 บาท
ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทะลุราคา 48,000 บาท ซึ่งนักลงทุนเข้าซื้อทองคำมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้แนวโน้มราคาทองคำแท่งยังคงสดใส คาดว่ามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อแนะนำ Let Profit Run
