แนวโน้มราคาทอง
ลุ้นฟื้นตัวต่อ
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +48.73 ดอลลาร์ คิดเป็น +1.86%
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,611 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,615 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,562 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 42,750 บาท
ต่ำสุด – 42,550 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคืนวานได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น ปธน. โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้มีการอนุมัติไฟเขียวให้ยูเครนสามารถใช้ขีปนาวุธ Army Tactical Missile Systems (ATACMS) ของสหรัฐฯ ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียได้ จึงเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาด กลับมากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างยูเครนและรัสเซียอีกครั้ง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะมีการเผยจำนวนการอนุญาตก่อสร้างบ้านเดือนต.ค.รวมถึงการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนต.ค. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าน่าจะประกาศออกมาไม่ต่างจากเดิม
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกที่เร่งตัวขึ้นมากำลังขึ้นทดสอบระดับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 ชั่วโมง โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2,620 $ ซึ่งประเมินว่าราคามีโอกาสย่อตัวสั้นๆ ก่อนจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวต้านสำคัญซึ่งราคาน่าจะผ่านขึ้นไปได้ยากที่ระดับ 2,642 $ หากยังไม่มีปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาอย่างมีนัยสำคัญ
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,610 และ 2,590 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,620 และ 2,640 ดอลลาร์
ราคาทองโลกสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาจากแนวรับหลังลงทดสอบแนวรับที่ 2,535 $ แม้จะมีแนวต้านย่อยอยู่ที่ระดับ 2,620 $ แต่ยังประเมินว่าราคามีโอกาสฟื้นตัวถึงระดับ 2,640 $ ซึ่งราคาน่าจะผ่านต้านดังกล่าวได้ยาก แนะนำเปิดสถานะซื้อบริเวณ 2,600- 2,610 $ โดยมีเป้าทำกำไรที่ 2,640 $ และตัดขาดทุนหลุดหลุดแนวรับที่ 2,590 $
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 42,800 และ 42,700 บาท
แนวต้าน : 43,250 และ 43,500 บาท
ประเมินแนวโน้มราคาทองแท่งในประเทศอาจบวกแรงน้อยกว่าทองโลก เนื่องจากปัจจัยทางด้านค่าเงินบาทอาจกลับมาแข็งค่ากดดันราคาทองในประเทศ แต่ราคาในช่วงเช้านี้น่าจะเปิดมาบริเวณ 42,800-42,900 บาท ซึ่งยังเป็นจุดที่น่าสะสมเพิ่มเข้าพอร์ต สำหรับการลงทุนระยะสั้นอาจมองเป้าที่ 43,500 บาท เป็นเป้าหมายทำกำไร และตัดขาดทุนหากหลุดระดับ 42,350 บาท