แนวโน้มราคาทอง
Wait and See
- ราคาทองยังคงตอบรับความกังวลต่อสถานการณ์การค้าโลก
- ปิดตลาดที่ระดับ 3,423 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 3,430 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,366 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 53,200 บาท
ต่ำสุด – 52,950 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองปรับขึ้นทะลุแนวต้านทางจิตวิทยาที่ $3,400 และทำจุดสูงสุดแตะ $3,430 จากความกังวลว่าทรัมป์จะเข้าแทรกแซงความเป็นอิสระของเฟด และผลกระทบของสงครามการค้าโลก ซึ่งทรัมป์ได้โพสต์ข้อความบน Truth Social เมื่อวานนี้ว่า “เศรษฐกิจจะชะลอตัวลง ยกเว้น พาวเวลจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงทันที หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์ขู่ว่าจะปลดพาวเวลออกจากตำแหน่งประธานเฟดหากไม่ยอมปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่วนความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ หลังจีนประกาศเตือนประเทศต่าง ๆ ไม่ให้ทำข้อตกลงทางเศรษฐกิจและการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของจีน และหากประเทศใดเลือกแนวทางดังกล่าว จีนก็จะดำเนินมาตรการตอบโต้ ทางด้าน Citi ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาทองคำในช่วง 3 เดือนข้างหน้าเป็น $3,500 จากเดิม $3,200
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ สหรัฐ จะมีการประกาศตัวเลขดัชนีภาคการผลิตสาขาริชมอนด์เดือนมี.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกที่เร่งตัวขึ้นมาจนทะลุทุกแนวต้าน แม้แนวโน้มจะยังอยู่ในขาขึ้น แต่ด้วยระดับราคาที่อยู่สูงแล้ว จึงไม่แนะนำไล่ราคา และใช้กลยุทธ์เชิงรับในการเข้าซื้อสะสมแทน
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 3,355 และ 3,310 ดอลลาร์
แนวต้าน : 3,450 และ 3,515 ดอลลาร์
ราคาทองโลกที่เร่งตัวขึ้นมาในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ราคาทองขึ้นไปซื้อขายบริเวณเป้าหมายราคาทองของสถาบันการเงินต่างชาติแล้ว ซึ่งให้กรอบบนของราคากันอยู่ที่ประมาณ 3,500 ดอลลาร์ จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับในการเข้าซื้อสะสมที่ระดับ 3,310-3,355 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 53,000 และ 52,500 บาท
แนวต้าน : 54,200 และ 54,600 บาท
ทองคำในประเทศเร่งตัวขึ้นมาอีกครั้งพร้อมราคาทองโลก ขณะที่ค่าเงินบาทกลับมาช่วยหนุนด้วยในเช้าวันนี้ แต่ด้วยราคาที่ซื้อขายกันในระดับสูงแล้ว จึงไม่แนะนำไล่ราคา และใช้กลยุทธ์เชิงรับรอเข้าซื้อสะสมจากบริเวณแนวรับที่ 52,500-53,000 บาท