แนวโน้มราคาทอง
อาจย่อตัวจากแรงขาย
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +17.77 ดอลลาร์ คิดเป็น +0.60%
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,934 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,955 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,921 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 46,700 บาท
ต่ำสุด – 46,450 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำโลกได้แรงหนุน หลังมีรายงานการเข้าถือครองทองคำของกองทุน SPDR Gold Trust โดยเพิ่มการถือครองสู่ระดับ 904.38 ตัน ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2566 สะท้อนให้เห็นความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ รวมถึงการเมืองโลก ล่าสุดการเลือกตั้งในเยอรมนีพึ่งผ่านพ้นไป หลังมีการเลือกตั้งดังกล่าวขึ้นในช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งพรรคอนุรักษ์นิยมสามารถคว้าชัยได้ 208 ที่นั่ง ซึ่งต้องจัดตั้งเป็นรัฐบาลผสม จึงอาจส่งผลต่อความเด็ดขาดในการดำเนินนโยบายๆ และอาจสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นยุโรป
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
สัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 4 (ประมาณการครั้งที่ 2) และดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนม.ค. (m/m)
วิเคราะห์ราคาทอง
แม้ราคาทองโลกจะเดินหน้าทำจุดสูงสุดได้ต่อเนื่อง แต่ก็ต้องสลับกับแรงขาย ที่ต้องเผชิญเป็นระยะๆ ตามระดับของแนวต้าน และระดับ Indicator ต่างๆที่บ่งชี้ว่า ราคาทองคำ อาจเริ่มเข้าสู่จุดที่มีการซื้อมากเกินไปแล้ว (Overbought) จึงประเมินว่าราคาอาจมีการพักตัว ซึ่งราคาในระดับปัจจุบันก็อยู่ในระดับสูงแล้ว โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับในปีก่อนหน้า
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,910 และ 2,885 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,955 และ 2,980 ดอลลาร์
แม้ราคาทองโลก จะเดินหน้าทำจุดสูงสุดได้ต่อเนื่อง แต่ก็ต้องสลับกับแรงขายเป็นระยะ โดยประเมินว่าอาจแบ่งขายทำกำไรที่แนวต้านที่ 2955 ดอลลาร์ โดยจับตารอดูบริเวณแนวรับสำคัญที่ 2,910 ดอลลาร์ หากมีสัญญาณฟื้นตัวอาจเริ่มทยอยเข้าซื้อตาม
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 46,300 และ 46,000 บาท
แนวต้าน : 46,800 และ 47,200 บาท
ราคาทองคำแท่ง ยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิมที่ระดับ 46,300-47,000 บาท โดยประเมินว่าราคาอาจมีโอกาสลงไปปิด Gap ที่โดดขึ้นมาจากระดับ 45,600 บาท จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับในการเข้าซื้อ หากเริ่มมีแรงซื้อเข้าหนุนจากแนวรับ จึงทยอยเข้าซื้อตาม