แนวโน้มราคาทอง
ลงทดสอบ $3,300
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +60.01 ดอลลาร์คิดเป็น +1.82%
- ปิดตลาดที่ระดับ 3,347 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 3,386 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,287 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 53,300 บาท
ต่ำสุด – 52,750 บาท
ภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทอง Spot ฟื้นตัวขึ้นแรง $60 ปิดที่ $3,347 หลังปรับลดลงแรงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าลง การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่คาดยืดเยื้อ ซึ่งนายเหอ หย่าตง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ โดยระบุว่าข่าวดังกล่าวไม่มีความจริงแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ระบุว่า มีโอกาสที่สหรัฐและจีนจะบรรลุข้อตกลงการค้าครั้งใหญ่ และทรัมป์ส่งสัญญาณปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยสหรัฐจะลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนลงอย่างมาก แต่ไม่ถึงระดับ 0% ส่วนผู้ขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 222,000 ราย เท่ากับตลาด ทางด้านกองทุน SPDR ขายทอง 0.58 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการประกาศตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. ของม.มิชิแกน
วิเคราะห์ราคาทอง
หลังราคาทองโลกย่อตัวลงทดสอบแนวรับสำคัญที่บริเวณ 3,310 ดอลลาร์ จึงมีแรงซื้อเข้าเก็งกำไรในระยะสั้นเข้าหนุนราคาทองโลก แต่หลังจากช่วงเช้ายังคงไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ระดับ 3,370 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ จึงมองลงทดสอบแนวรับที่ 3,200-3,250 ดอลลาร์ต่อไป
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 3,250 และ 3,200 ดอลลาร์
แนวต้าน : 3,370 และ 3,420 ดอลลาร์
แม้ว่าราคาทองโลกจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาจากแนวรับสำคัญได้ แต่ก็ยังคงติดแนวต้านสำคัญที่ระดับ 3370 ดอลลาร์ โดยยังคงคาดว่าอาจมีการปรับฐานแรงเหมือนเดิม จึงกลับมาแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับรอซื้อสะสมที่ 3,200-3,250 ดอลลาร์ โดยมีเป้าทำกำไรที่ 3,370 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 51,000 และ 50,500 บาท
แนวต้าน : 53,000 และ 53,400 บาท
ทองคำในประเทศเผชิญแรงขาย หลังทองโลกขึ้นทดสอบ 3,500 ดอลลาร์ แต่ประเมินว่าอาจเหลือ Downside อีกพอสมควร จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับรอเข้าซื้อสะสมที่ระดับ 50,500-51,000 บาท