Desktop 1550x550 13

แนวโน้มตลาดและการลงทุน

Market Focus Weekly 17-03-68

17 มีนาคม 2568|08:28 น.

ราคาทองคำพุ่งทำนิวไฮ!
Fear & Greed Index แตะ Extreme Fear

Gold Bullish

  • ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส
  • ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง
  • ความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับสงครามการค้าที่อาจรุนแรงขึ้น

Gold Bearish

  • แรงเทขายทำกำไรระยะสั้น หลังราคาทองคำแตะ 3,000 ดอลลาร์

คาดราคาทองคำพุ่งทำนิวไฮ! Fear & Greed Index แตะ Extreme Fear ท่ามกลางความกลัวเศรษฐกิจถดถอย

สัปดาห์ก่อนราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นร้อนแรงทำ All-Time High แตะระดับที่ 3,004 ดอลลาร์ ซึ่งราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นไปกว่า 13.73% นับตั้งแต่ต้นปี ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศทำ All-time high เช่นกันที่ระดับ 47,650 บาท โดยราคาทองคำแท่งในประเทศได้ปรับตัวขึ้นไปกว่า 11.37% นับตั้งแต่ต้นปีเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น เจากทรัมป์ขู่จะเรียกเก็บภาษีผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์และไวน์นำเข้าจาก EU สูงถึง 200% หลังจากสหภาพยุโรป (EU) ประกาศเรียกเก็บภาษีวิสกี้ที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 50% เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากยุโรป ซึ่งก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้ากับจีนที่ 10% ทุกประเภท ทำให้จีนได้มีการตอบโต้กลับ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% ต่อมาสหรัฐได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้าจีนเป็น 20% กับสินค้าทุกชนิด จีนจึงตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกษตร (ถั่วเหลือง ไก่สับ แป้งสาลี ข้าวโพด ผลิตภัณฑ์จากฝ้าย ฟางข้าว หมู เนื้อวัว อาหารทะเล ผลไม้ ผัก และผลิตภัณฑ์ที่มาจากนม รวมถึงสอบสวนบริษัทสหรัฐ 25 แห่ง เข้าบัญชีควบคุมการส่งออกที่ไม่น่าเชื่อถือ ทรัมป์ยังปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมเป็นอัตรา 25% ซึ่งการที่ทรัมป์มีการทำสงครามการค้า ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่เป็นพันธมิตร สร้างความกังวลต่อนักลงทุนอย่างมากเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและอาจส่งผลกระทบต่อทั่วโลก อาจส่งผลต่อเงินเฟ้อที่พุ่งสูง และมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

สิ่งที่นักลงทุนมีความกังวลอยู่ 2 ประเด็น คือ การลดขนาดรัฐบาลกลาง ภาษีนำเข้าสินค้าที่ทรัมป์เชื่อว่าอาจทำให้อเมริการกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง การที่ทรัมป์เคยให้สัมภาษณ์ใน Fox News ก็สะท้อนถึงตัวทรัมป์น่าจะยอมแลกผลกระทบระยะสั้นที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเงินเฟ้อ เพื่อได้มาซึ่งผลระยะยาวที่ทรัมป์ต้องการ เพราะทรัมป์หลีกเลี่ยงคำถามทาง Fox News ถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ทรัมป์ใช้คำตอบที่ว่า เป็นช่วงการเปลี่ยนผ่าน เพราะสิ่งที่เค้าทำนั้นมันยิ่งใหญ่มาก

หากพิจารณาจาก Fear & Greed Index เป็นดัชนีที่พัฒนาโดย CNN เพื่อวัดความรู้สึกของนักลงทุนในตลาดการเงิน โดยคำนวณจาก 7 ตัวชี้วัดหลัก ได้แก่ Stock Price Momentum: เป็นการเปรียบเทียบค่าปัจจุบันของ S&P 500 กับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 125 วัน, Stock Price Strength วัดจำนวนหุ้นที่ทำราคาสูงสุดและต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก, Stock Price Breadth เปรียบเทียบปริมาณการซื้อขายของหุ้นที่ราคาปรับขึ้นกับหุ้นที่ราคาปรับลง, Put and Call Options วิเคราะห์อัตราส่วนระหว่างปริมาณการซื้อขายออปชั่นแบบ Put และ Call, Junk Bond Demand ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรที่มีความเสี่ยงสูงและพันธบัตรที่มีความเสี่ยงต่ำ,Market Volatility วัดโดยดัชนี VIX ซึ่งเป็นดัชนีความผันผวนของตลาด และ Safe Haven Demand ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตรรัฐบาล เมื่อเทียบกับหุ้น
ซึ่งค่า Fear & Greed Index ล่าสุดอยู่ที่ 21 เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2568 ซึ่งอยู่ในช่วง Extreme Fear (ความกลัวขั้นสุด) ซึ่งค่าต่ำกว่าเดือนที่แล้ว ทั้งนี้ค่ายิ่งต่ำ ยิ่งแสดงถึงความกลัวขั้นสุด แสดงว่าความกลัวในตลาดเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ตลาดกำลังอยู่ในภาวะที่นักลงทุนมีความกังวลและไม่มั่นใจเป็นอย่างมาก อาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจและภาวะถดถอย (Recession Risk) ซึ่งนักลงทุนมีความกังวลนโยบายภาษีนำเข้าสินค้าจากทรัมป์ ที่อาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้หากดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN อยู่ที่ระดับ Extreme Fear (21) แสดงให้เห็นว่านักลงทุนในตลาดการเงินมีความกังวลสูงมากเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น สถานการณ์นี้อาจส่งผลต่อราคาทองคำในหลายแง่มุม อาจส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นและคริปโตเคอร์เรนซี และหันมาถือครองทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ปัจจัยนี้เกิดขึ้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession Risk) และนโยบายภาษีนำเข้าสินค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจสร้างผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงนักลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจะเผชิญกับความผันผวนสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนจะเข้าสู่ตลาดทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) นอกจากนี้ กองทุน ETF ที่เกี่ยวข้องกับทองคำและนักลงทุนรายใหญ่ อาจเพิ่มสถานะการถือครองทองมากขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หากดัชนี Fear & Greed Index อยู่ที่ระดับ Extreme Fear และยังไม่มีแนวโน้มที่มีค่าดีขึ้นเกินกว่า 25 ทองคำก็ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากความกังวล ความกลัวดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูงของ All-time high ทั้งนี้นักลงทุนควรติดตามปัจจัยทางเศรษฐกิจ นโยบายการเงินของเฟด และความผันผวนของตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

ราคาทองคำยังสามารถทำ All-Time high รอบใหม่ในปีนี้ แต่ให้ระวังแรงเทขายระยะสั้นหลังจากที่ราคาทองคำแตะที่ 3,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เป็นการปรับตัวลงเพื่อขึ้นต่อในระยะต่อไป โดยสัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับ 2,950 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 2,920 ดอลลาร์ และมีแนวต้านที่ 3,020 ดอลลาร์ และ 3,040 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศมีแนวโน้มย่อตัวลงเพื่อปรับตัวขึ้นได้ต่อเช่นกัน โดยมีแนวรับ 47,200 บาท และแนวรับถัดไป 47,000 บาท ส่วนแนวต้าน 47,900-48,000 บาท

ดาวน์โหลดเอกสาร

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

 
Cover 1000x670 02

Night Recap Gold Futures 31-03-2568

16:21 น.

 
Cover 1000x670 10

Night Recap Gold Spot 31-03-2568

16:03 น.

 
Cover 1000x670 01

Daily Recap Gold Futures 31-03-2568

09:00 น.

 
Cover 1000x670 06

Derivative Recap 31-03-2568

08:50 น.

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับเรา

พูดคุยกับเรา

พบเจอปัญหา หรือมีข้อสงสัย
ทักหาเราได้เลยที่นี่

เวลาทำการลูกค้าสัมพันธ์
จันทร์ - ศุกร์ 08.30 น. - 24.00 น.
เสาร์ - อาทิตย์ 08.30 น. - 17.30 น.

For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.

ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

You can choose your cookie settings by enabling/disabling cookies for each category as needed, except for necessary cookies.

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้เหล่านี้จำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์ เช่น การรักษาการล็อกอินของผู้ใช้ การบันทึกสินค้าที่เพิ่มลงในรถเข็น และการบันทึกการตั้งค่าภาษา
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้การทำงานเพื่อจดจำการตั้งค่าผู้ใช้

    คุกกี้เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ โดยจดจำการตั้งค่าที่ผู้ใช้เคยกำหนดไว้ เช่น ชื่อผู้ใช้, ภาษา, ภูมิภาค หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ของบุคคลที่สามเพื่อการวิเคราะห์และการตลาด

    คุกกี้เหล่านี้ถูกตั้งค่าโดยบุคคลที่สาม เช่น ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลหรือผู้ให้บริการโฆษณา และใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์เว็บไซต์และการทำการตลาด
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้โฆษณาเพื่อแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจ

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อติดตามการใช้งานของผู้ใช้บนเว็บไซต์ต่าง ๆ และแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้มากขึ้น ซึ่งมักจะใช้โดยเครือข่ายโฆษณาภายนอก
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า