วันที่ 4 มีนาคม 2568 สำนักข่าว CNBC รายงานว่า จีน ประกาศเมื่อวันที่ 4 มี.ค.68 ว่าจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมสูงถึง 15% สำหรับสินค้าจากสหรัฐบางรายการ มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2568 และจำกัดการส่งออกไปยังบริษัทสหรัฐ 15 แห่ง โดยมาตรการตอบโต้จากกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ของจีนเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่สหรัฐเริ่มเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มเติมอีก 10%
โดยภาษีที่จีนจะเรียกเก็บจากสหรัฐเพิ่มเติมนั้น ครอบคลุมสินค้าเกษตรของสหรัฐเป็นหลัก รวมถึงข้าวโพดและถั่วเหลือง และบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการควบคุมการส่งออก ได้แก่ Leidos และ General Dynamics Land Systems ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์
ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในช่วงเช้าวันนี้ กระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวว่า จีนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้าจีนจากสหรัฐฯ และจะใช้มาตรการตอบโต้
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุเป็นภาษาจีนว่าภาษีศุลกากรดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และจีนเรียกร้องให้สหรัฐถอนภาษีศุลกากรดังกล่าว ก่อนหน้านี้จีนได้เตือนถึงมาตรการตอบโต้ แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ
ภายหลังจากสหรัฐกำหนดมาตรการภาษีรอบแรกในเดือนกุมภาพันธ์ มาตรการตอบโต้ของจีน ได้แก่ การเพิ่มภาษีนำเข้าพลังงานบางรายการของสหรัฐ และการนำบริษัทสหรัฐ 2 แห่งเข้าไปอยู่ในรายชื่อนิติบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งอาจจำกัดความสามารถในการทำธุรกิจในประเทศในเอเชียได้
ทำเนียบขาวยืนยันว่าภาษีนำเข้าสินค้าจีน 10% จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค.68 ซึ่งจะทำให้ยอดภาษีนำเข้าใหม่ทั้งหมดที่เรียกเก็บในระยะเวลาเพียงประมาณ 1 เดือนเพิ่มขึ้นเป็น 20%
อัตราภาษีศุลกากรที่มีผลบังคับใช้โดยเฉลี่ยของสหรัฐสำหรับสินค้าจีนคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 33% จากเดิมที่เคยมีประมาณ 13% ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคม ตามการประมาณการของ Ting Lu หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของ Nomura
ที่มา : cnbc.com, การเงินการธนาคาร