ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุว่า เขาวางแผนจะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 100% สำหรับภาพยนตร์ที่สร้างในต่างประเทศ
ทรัมป์กล่าวว่า เขาได้สั่งการให้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เริ่มกระบวนการจัดเก็บภาษีดังกล่าว เนื่องจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอเมริกากำลังจะตาย “อย่างรวดเร็วมาก”
เขากล่าวตำหนิ “ความพยายามร่วมกัน” ของประเทศอื่น ๆ ในการเสนอแรงจูงใจเพื่อดึงดูดผู้สร้างภาพยนตร์และสตูดิโอ ซึ่งเขาบรรยายว่าเป็น “ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ”
“นอกจากนี้ยังมีการส่งข้อความและโฆษณาชวนเชื่ออีกด้วย เราต้องการให้ภาพยนตร์สร้างขึ้นในอเมริกาอีกครั้ง!” ทรัมป์กล่าวผ่านทรูธโซเชียล ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง
นับตั้งแต่หวนคืนเข้าสู่ทำเนียบขาวในเดือน ม.ค. ทรัมป์ได้กำหนดภาษีศุลกากรต่อประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
เขาอ้างเหตุผลว่า ภาษีศุลกากรจะช่วยผู้ผลิตในสหรัฐฯ และปกป้องงานของชาวอเมริกัน ทว่ามันได้ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกตกอยู่ในภาวะโกลาหล และคาดว่าราคาสินค้าทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้น
ทรัมป์โจมตีจีนอย่างหนักที่สุดด้วยมาตรการภาษีนำเข้าสูงถึง 145% สำหรับสินค้าจากจีน
รัฐบาลของเขาระบุเมื่อเดือนที่แล้วว่า เมื่อมีการเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรใหม่เข้าไปในระบบภาษีนำเข้าที่มีอยู่แล้ว ภาษีสำหรับสินค้าจีนบางรายการอาจสูงถึง 245%
รัฐบาลจีนตอบโต้กลับด้วยการประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ 125%
ปัจจุบัน ประเทศอื่น ๆ ต้องเผชิญกับภาษีศุลกากรโดยรวมของสหรัฐฯ อยู่ที่ 10% จนกว่าจะสิ้นสุดช่วงหยุดการเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้นในเดือน ก.ค. ที่จะถึง
ในระหว่างพูดคุยกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน เมื่อวันอาทิตย์ (4 พ.ค.) ทรัมป์กล่าวว่า เขากำลังพบปะกับหลายประเทศ รวมทั้งจีน เพื่อหารือเรื่องข้อตกลงทางการค้า
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวเสริมว่า ไม่มีแผนที่จะพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในสัปดาห์นี้
เมื่อถูกถามว่า จะมีการประกาศข้อตกลงการค้าใด ๆ ในสัปดาห์นี้หรือไม่ ทรัมป์กล่าวว่า “อาจจะเกิดขึ้นก็ได้” แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ
ที่มา : สำนักข่าว BBC News ไทย