ข่าวสารการลงทุน

ดาวโจนส์ปิดลบ 178.20 จุด วิตกเงินเฟ้อสูงขวางเฟดหั่นดบ.

08 มกราคม 2568|08:06 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (7 ม.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นและอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

          ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,528.36 จุด ลดลง 178.20 จุด หรือ -0.42%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,909.03 จุด ลดลง 66.35 จุด หรือ -1.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,489.68 จุด ลดลง 375.30 จุด หรือ -1.89%

          ในช่วงแรก ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวในแดนบวก ก่อนที่จะปิดตลาดปรับตัวลง หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 259,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.098 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ย. จากระดับ 7.839 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.70 ล้านตำแหน่ง

          ทางด้านสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.1 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 52.1 ในเดือนพ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 53.3

          อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.699% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. 2567 หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลทั้งสองรายการ

          สัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งได้ส่งผลให้การคาดการณ์เกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ถูกเลื่อนออกไป โดยเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย. และจากนั้นเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้จนถึงสิ้นปี 2568

          บิล อดัมส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Comerica Bank กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวขึ้นอีก โดยเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อครั้งใหม่ที่เกิดจากมาตรการภาษีนำเข้านั้น อาจจะส่งผลให้เฟดเปลี่ยนใจจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทุกครั้ง เป็นการหยุดพักการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้”

          หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 2.4% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเฮลธ์แคร์ ดีดตัวขึ้น 1.06% และ 0.58% ตามลำดับ

          การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง นำโดยหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ดิ่งลง 6.22% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) ร่วงลง 1.95% หุ้นแอปเปิ้ล (Apple) ลดลง 1.14% หุ้นไมโครซอฟท์ (Microsoft) ร่วงลง 1.3%

          ในระหว่างวัน หุ้นอินวิเดียทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากเจนเซน หวง ซีอีโอของอินวิเดียเปิดตัวผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่นใหม่ในงานประชุม CES 2025 ที่ลาสเวกัส ซึ่งทำให้นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับอุปสงค์ AI

          หุ้นเทสลา (Tesla) ร่วงลง 2.67% หลังจากนักวิเคราะห์ของ BofA Global Research ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเทสลาลงสู่ระดับ “Neutral” จากระดับ “Buy”

          นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำวันที่ 17-18 ธ.ค.ของเฟดซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ (8 ม.ค.) และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้

          ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 9 ม.ค.นี้ เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

 
จีน

ธนาคารกลางจีนลุยซื้อทองคำเพิ่ม แม้ราคาใกล้แตะนิวไฮ

14:38 น.

 
ตลาดทองคำ

ทองปิดบวก 18 ดอลลาร์ รับข่าวแบงก์ชาติจีนรุกซื้อทองคำ

08:04 น.

 
Donald Trump

“ทรัมป์” จ่อพบวุฒิสมาชิกรีพับลิกันพุธนี้ เร่งผลักดันกม.รวมเป้าหมายเบ็ดเสร็จ

15:44 น.

 
ตลาดหุ้น

ดาวโจนส์ปิดบวก 339.86 จุด แรงซื้อหุ้นเทคฯ หนุนตลาด

08:16 น.

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับเรา

พูดคุยกับเรา

พบเจอปัญหา หรือมีข้อสงสัย
ทักหาเราได้เลยที่นี่

เวลาทำการลูกค้าสัมพันธ์
จันทร์ - ศุกร์ 08.30 น. - 24.00 น.
เสาร์ - อาทิตย์ 08.30 น. - 17.30 น.

For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.

ตะกร้าสินค้า0
ไม่มีสินค้าในตะกร้า
เลือกซื้อสินค้าต่อ
This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.