สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 1% ในวันพฤหัสบดี (12 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อวันพุธ นอกจากนี้ นักลงทุนได้ปรับโพสิชันการลงทุนก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 47.30 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 2,709.40 ดอลลาร์/ออนซ์
เซน วอดา นักวิเคราะห์จากบริษัท MarketPulse กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรและปรับโพสิชันการลงทุนก่อนการประชุมเฟด โดยนักลงทุนจับตาแถลงการณ์หลังการประชุมเฟดในวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในเดือนม.ค.ปีหน้า รวมทั้งทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในอนาคต
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 98% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. แต่นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนม.ค.ปีหน้า หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ออกมาเรียกร้องให้คณะกรรมการเฟดใช้ความระมัดระวังในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่าดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 3.0% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2566 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.6% หลังจากปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนต.ค.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดีดตัวขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.2% หลังจากปรับตัวขึ้น 3.4% ในเดือนต.ค.
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่าตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 17,000 ราย สู่ระดับ 242,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 220,000 ราย
ที่มา สํานักข่าวอินโฟเควสท์