แนวโน้มราคาทอง
Sideways
- ราคาทองต่างประเทศทำ ATH ที่ระดับ 3,148 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งแตะ 50,700 บาท
Gold spot
สูงสุด – 3,148 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,120 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 50,700 บาท
ต่ำสุด – 50,500 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองโลกปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ อีกทั้งสงครามภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางกลับมาระอุขึ้น โดยล่าสุดอิสราเอลโจมตีทางอากาศถล่มตอนใต้ของเมืองเบรุต ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งปลูกสร้างในย่านที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ขณะเดียวกันมีรายงานว่าอิหร่านขู่จะพัฒนานิวเคลียร์หากถูกสหรัฐฯ หรือ อิสราเอลโจมตี และทางด้านจีนกลับมาซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันให้กับตลาดการลงทุน และอาจช่วยหนุนราคาทองซึ่งเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงให้เร่งตัวสูงขึ้น
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลข 3 ตัว ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมี.ค.โดยมาร์กิต, ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมี.ค.โดย ISM และ จำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกติดแนวต้านสำคัญที่ระดับ 3,150 ดอลลาร์ และเริ่มเผชิญกับแรงขาย ระยะสั้นประเมินว่าอาจมีการปรับฐาน โดยที่มีแนวรับสำคัญที่บริเวณ 3,100 ดอลลาร์ ซึ่งราคาอาจสามารถฟื้นตัวกลับได้อีกครั้ง
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 3,105 และ 3,085 ดอลลาร์
แนวต้าน 3,150 และ 3,170 ดอลลาร์
ราคาทองโลกเผชิญแรงขายจากแนวต้านที่ระดับ 3,150 ดอลลาร์ และแท่งเทียนในกราฟรายวันกำลังทำรูปแบบ Shooting Stars (รูปแบบดาวตก ซึ่งราคามักกลับตัวลง) จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับ รอเข้าซื้อสะสมที่ระดับ 3,105 ดอลลาร์ โดยมีเป้าทำกำไรที่ 3,150 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ 3085 ดอลลาร์ลงไป
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 50,000 และ 49,700 บาท
แนวต้าน : 50,700 และ 51,000 บาท
ราคาทองคำในประเทศ ยังได้แรงหนุนจากค่าเงินบาทที่กลับขึ้นมาอ่อนค่า แต่ประเมินว่ามีโอกาสที่ราคาจะย่อตัว จึงอาจแบ่งขายทำกำไรก่อน โดยแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับรอเข้าสะสมจากแนวรับสำคัญที่ 50,000 บาท โดยมีเป้าทำกำไรที่ 50,700 บาท และตัดขาดทุนหากหลุดแนวรับที่ 49,700 บาท