แนวโน้มราคาทอง
อาจยังติดแนวต้าน
- ราคาทองโลกปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3,260 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 3,263 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,227 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 51,400 บาท
ต่ำสุด – 51,100 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองโลกปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดในช่วงบ่ายที่ระดับ 3,263 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศกลับปรับตัวลง เนื่องจากการแข็งค่าของค่าเงินบาทลงมาเคลื่อนไหวที่บริเวณ 33.10 บาท รมว.คลังญี่ปุ่นเผยว่ามี ‘พันธบัตรสหรัฐ’ เป็น ‘ไพ่ในมือ’ ที่อาจใช้เจรจาต่อรองการค้ากับสหรัฐได้ ในฐานะเจ้าหนี้เบอร์ 1 ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าญี่ปุ่นกำลังพิจารณาจะขายพันธบัตรสหรัฐที่ถืออยู่ และอีกประเด็นสำคัญ ทรัมป์ ขู่คว่ำบาตรชาติที่ซื้อน้ำมันจากอิหร่าน ซึ่งอาจถูกห้ามติดต่อซื้อขายกับสหรัฐฯ หลังสหรัฐฯเลื่อนการเจรจาพูดคุยกับอิหร่านในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งตามกำหนดการเดิมจะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤษภาคมที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยเจ้าหน้าที่อาวุโสของอิหร่านกล่าวว่าการกำหนดวันใหม่นั้นจะขึ้นอยู่กับท่าทีของสหรัฐฯ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm), อัตราการว่างงาน และรายได้เฉลี่ยรายชั่วโมง
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกฟื้นตัวขึ้นจากแนวรับสำคัญที่ระดับ 3,200 ดอลลาร์ อาจยังคงติดแนวต้านสำคัญที่ 3,260 ดอลลาร์ โดยหากสามารถทะลุได้จริงมีโอกาสขึ้นทดสอบ 3,315 ดอลลาร์ แต่ยังคงให้น้ำหนักในการลงทดสอบแนวรับสำคัญที่ 2,950-3,050 ดอลลาร์เช่นเดิม
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 3,130 และ 3,050 ดอลลาร์
แนวต้าน 3,270 และ 3,315 ดอลลาร์
ราคาทองโลกย่อตัวลงจนหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 3,270 ดอลลาร์ แนวโน้มจึงอาจกลับเข้าสู่ขาลงอีกครั้ง จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับรอเข้าซื้อสะสมที่ระดับ 2,950-3,050 ดอลลาร์ และสำหรับผู้ที่ต้องการเก็งกำไรในระยะสั้น อาจต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากในระยะสั้นแนวโน้มอาจเข้าสู่ขาลง
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 49,000 และ 48,000 บาท
แนวต้าน : 51,800 และ 52,300 บาท
ทองคำในประเทศเผชิญแรงขาย จนหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 51,800 บาทลงมา แนวโน้มจึงอาจกลับสู่ขาลงอีกครั้ง แนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับรอเข้าซื้อสะสมที่บริเวณระดับ 48,000-49,000 บาท ผู้ที่ต้องการเก็งกำไรในระยะสั้น อาจต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าเก็งกำไร