แนวโน้มราคาทอง
ปรับตัวขึ้น
- ราคาทองคำทำ All-time High
จากสงครามการค้าจีนกับสหรัฐ
Gold spot
สูงสุด – 2,865 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,839 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 45,500 บาท
ต่ำสุด – 45,250 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำเดินหน้าทำ All-time High จากสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน อย่างไรก็ตามผลกระทบโดยตรงต่อจีนน่าจะมีจำกัด จากการเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและ LNG จากสหรัฐ เนื่องจากบริษัทนำเข้าของจีนอาจลดการซื้อจากสหรัฐและหันไปพึ่งพาประเทศอื่นที่ต้นทุนสินค้าถูกกว่า แต่อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพลังงาน เกษตรกรและอุตสาหกรรมการเกษตร อุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐ จากจีนเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญสำหรับก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และพลังงานของสหรัฐ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนม.ค. ของ ADP ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่ง จากที่เพิ่มขึ้น 122,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ติดตามดัชนี PMI ภาคบริการเดือนม.ค. โดย ISM
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำยังคงมีแรงซื้อที่แข็งแกร่ง และยังคงทำ High ใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่ามีแนวโน้มที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่แนะนำให้เข้าซื้อแบบไล่ราคา เนื่องจากราคาทองคำเริ่มเข้าสู่ Overbought จาก Modified Stochastic
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,845 และ 2,833 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,870 และ 2,880 ดอลลาร์
แนะนำทยอยขายทำกำไร อย่างไรก็ตามหากมีการเข้าซื้อในระยะนี้ ให้เน้นเข้าเร็วออกเร็ว โดยสามารถเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 2,833 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,816 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 45,250 และ 45,100 บาท
แนวต้าน : 45,650 และ 45,800 บาท
ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นทำ All-Time high ต่อเนื่อง จากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ทำให้แนวโน้มราคาทองคำแท่งยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อ อย่างไรก็ตาม ให้ระวังการเข้าซื้อ เน้นการเข้าออกเร็ว แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำแท่งย่อตัวลงมา