แนวโน้มราคาทอง
ขาขึ้น แต่ระวังแรงเทขาย
- ราคาทองคำปรับตัวขึ้น
จับตาการจ้างงานสหรัฐคืนนี้
Gold spot
สูงสุด – 2,870 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,855 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 45,750 บาท
ต่ำสุด – 45,600 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้น และอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-time high) และปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ UBS ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำขึ้นสู่ระดับ 3,000 ดอลลาร์ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ส่วน Citigroup ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาทองคำในระยะใกล้ ขึ้นสู่ระดับ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ จากความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ขยายตัวกว้างขึ้นทั่วโลก และอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากธนาคารกลาง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. อัตราการว่างงานเดือนม.ค. ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.ของม.มิชิแกน (เบื้องต้น)
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ซึ่งเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน,100 วัน และ 200 วัน เรียงตัวในลักษณะ Bullish ขณะที่ MACD แสดงโมเมนตัมบวกต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม Modified Stochastic เข้าสู่ Overbought ส่งสัญญาณว่าราคาทองคำอาจเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้น
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,845 และ 2,835 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,870 และ 2,882 ดอลลาร์
แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) แต่ให้ระวังแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น และยังไม่เกิดสัญญาณกลับตัวที่ชัดเจน นักลงทุนระยะสั้นควรรอจังหวะย่อตัวเพื่อเข้าซื้อบริเวณแนวรับ $2,845 เป้าหมายทำกำไรระยะสั้น $2,880 – $2,900 โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ $2,835
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 45,500 และ 45,400 บาท
แนวต้าน : 45,800 และ 46,000 บาท
ราคาทองคำแท่งยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งแนวโน้มของราคาทองคำแท่งยังคงขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่ระยะสั้นให้ระวังแรงขาย เนื่องจาก Modified Stochastic เข้าสู่ Overbought ทำให้อาจมีการพักฐานสั้นๆ แนะนำรอจังหวะย่อตัวเพื่อเข้าซื้อ