แนวโน้มราคาทอง
อาจขึ้นทดสอบ $3,275
- ราคาทองโลกทะลุ 3,200 ดอลลาร์
- ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าสุดในรอบ 3 ปี
- จีนโต้ขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ 125%
Gold spot
สูงสุด – 3,226 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,175 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 51,250 บาท
ต่ำสุด – 50,850 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองโลกปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 3,226.9 ดอลลาร์ ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลงต่ำกว่า 100 จุด ซึ่งปรับตัวร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 ปี จากสถานการณ์ความตึงเครียดของสงครามการค้า ล่าสุดจีนขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 125% และให้มีผล 12 เม.ย. ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้กลุ่มสถาบันการเงินและนักลงทุน ยังคงเข้าถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องจับตา คือ การเจรจาอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ และ อิหร่าน ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันเสาร์นี้ โดยสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันสหรัฐฯ มีกองกำลังที่อยู่ในตะวันออกกลางค่อนข้างมาก โดยอาจมองว่าเป็นการกดดันให้อิหร่านยอมทำข้อตกลงอาวุธนิวเคลียร์
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
เวลา 19.30 น. คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการเผยดัชนีราคาผู้ผลิตทั่วไป (PPI) และดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน (Core PPI) และยังมีการเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก ม.มิชิแกน
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ยังคงได้แรงหนุนจากสงครามการค้า โดยหลังจากทะลุแนวต้านที่ระดับ 3,200 ดอลลาร์ ขึ้นมา แนวโน้มจึงกลับมาอยู่ในขาขึ้นอีกครั้ง โดยมองเป้าหมายราคาทองโลกที่ระดับ 3,275 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 3,170 และ 3,125 ดอลลาร์
แนวต้าน 3,275 และ 3,360 ดอลลาร์
ราคาทองโลกกลับมาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง หลังสามารถทะลุแนวต้านที่ระดับ 3,200 ดอลลาร์ขึ้นมาได้ จึงกลับมาแนะนำไล่ซื้ออีกครั้ง โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ 3,275 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 3,170 ดอลลาร์ลงไป
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 50,700 และ 50,300 บาท
แนวต้าน : 51,900 และ 52,300 บาท
ทองคำในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้นมา ส่งผลให้ภาพรวมกลับมาอยู่ในขาขึ้นอีกครั้ง สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ อาจเข้าไล่ราคาอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ 51,900 บาท และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับแรกที่ 50,700 บาทลงไป