แนวโน้มราคาทอง
อาจยังติดต้าน $3,340
- ราคาทองปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด
- ติดตามความเคลื่อนไหวสงครามการค้าสหรัฐฯ – จีน
Gold spot
สูงสุด – 3,366 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,287 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 53,300 บาท
ต่ำสุด – 52,750 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 3,366 ดอลลาร์ ในเช้านี้ ก่อนเผชิญแรงเทขายทำกำไร ประเด็นที่ส่งผลบวกต่อราคาทองคาดเกิดจากโฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จีนประกาศไม่มีการเจรจาใดๆ กับสหรัฐฯ ย้ำชัดให้สหรัฐฯ “ยกเลิกภาษีฝ่ายเดียว” ก่อนและถึงค่อยกลับมาเจรจากัน ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจสร้างความกังวลต่อนักลงทุนในตลาด ขณะที่ด้านรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาผ่อนปรนภาษีนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์จากจีนก่อนเส้นตายวันที่ 3 พ.ค. และอาจยกเว้นภาษีสำหรับชิ้นส่วนบางรายการ รวมถึงเหล็กและอะลูมิเนียม ขณะที่ยังคงต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อไป
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะมีการประกาศตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน และยอดขายบ้านมือสอง
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกที่ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงเช้า อาจยังคงติดแนวต้านสำคัญที่ระดับ 3,340 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่ากดดันราคาทองในประเทศ จึงยังแนะนำใช้ความระมัดระวังในการเข้าซื้อสะสม
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 3,250 และ 3,200 ดอลลาร์
แนวต้าน 3,370 และ 3,420 ดอลลาร์
ราคาทองโลกขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 3,500 ดอลลาร์ แต่ยังไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ จึงประเมินว่าราคาทองอาจปรับฐานลงแรงอีกครั้ง โดยหากปรับฐานลงจริงๆ มีแนวรับสำคัญที่อาจลงทดสอบอยู่ที่ระดับ 3,200-3,250 ดอลลาร์ โดยยังแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับเข้าซื้อสะสมที่แนวรับดังกล่าว
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 51,000 และ 50,500 บาท
แนวต้าน : 53,400 และ 53,800 บาท
ทองคำในประเทศอาจถูกกดดันจากทองโลกซึ่งประเมินว่าอาจย่อตัวลง ขณะที่ค่าเงินบาทอาจกดดันราคาทองในประเทศให้ลงแรงกว่าราคาทองโลก จึงแนะนำใช้ความระมัดระวังในการเข้าซื้อสะสม โดยหากราคาย่อตัวลงจริง อาจมีการฟื้นตัวกลับจากแนวรับสำคัญที่ 50,500-51,000 บาท