แนวโน้มราคาทอง
แนวต้าน 2,660 ดอลลาร์
- ราคาทองคำฟื้นตัว
- หลังทรัมป์มีแผนขึ้นภาษีนำเข้ามากขึ้น
Gold spot
สูงสุด – 2,649 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,627 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 43,450 บาท
ต่ำสุด – 43,200 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น ซึ่งประเด็นความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงสงครามการค้าและความขัดแย้งอื่นๆ กลับมาเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกประเภทจากเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งเป็นคู่ค้ารายสำคัญของสหรัฐฯ ในอัตรา 25% และจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% หากเขาได้รับตำแหน่ง ซึ่งแคนาดาก็เตือนว่าจะขึ้นภาษีสหรัฐฯ เช่นกัน ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ได้มีการคาดว่าเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา อาจเสี่ยงกระทบผู้บริโภคสหรัฐฯ เอง ซึ่งอาจมีแนวโน้มที่จะทำให้ราคาเชื้อเพลิงในสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งที่ 2) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค. ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนต.ค. และยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายเดือนต.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
สัญญาณทางเทคนิคอาจฟื้นตัวระยะสั้น แต่ให้จับตาบริเวณแนวต้าน 2,660 ดอลลาร์หากไม่ผ่านบริเวณแนวต้านดังกล่าว อาจมีแรงเทขายออกมา อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของราคาทองคำในช่วงนี้อาจมีความผันผวนตามข้อมูลของตลาดที่ได้รับ ให้ระมัดระวังการลงทุน
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,635 และ 2,600 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,660 และ 2,670 ดอลลาร์
ราคาทองคำอาจฟื้นตัวเล็กน้อย และให้ระวังความผันผวนของราคาทองคำช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 2,660 ดอลลาร์ให้เปิดสถานะขาย หรือสามารถเข้าซื้อบริเวณ 2,600 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,590 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 43,200 และ 43,000 บาท
แนวต้าน : 43,600 และ 43,700 บาท
ราคาทองคำแท่งปรับตัวลงมา หลังเกิดรูปแบบ Double Top อย่างไรก็ตาม วันนี้มีการฟื้นตัวเกิดขึ้น คาดว่าเป็นการฟื้นตัวระยะสั้น ให้ระวังความผันผวนของราคาทองคำแท่ง แนะนำรอเข้าซื้อบริวณ 42,500 บาท