แนวโน้มราคาทอง
Sideways up
- ทองโลกทะลุ 3,100 ดอลลาร์
ทองแท่งทะลุ 50,000 บาท
Gold spot
สูงสุด – 3,127 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,076 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 50,100 บาท
ต่ำสุด – 49,650 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำ All-time high ที่ 3,127 ดอลลาร์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากที่ลงนามขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จาก 2.5% เป็น 25% มีผล 2 เม.ย. และภาษีชิ้นส่วนเริ่ม 3 เม.ย. ส่งผลกระทบหนักต่อประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ เช่น เม็กซิโก แคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเยอรมนี โดยเฉพาะเม็กซิโกและแคนาดาที่เชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานในสหรัฐฯ และอาจขัดกับข้อตกลง USMCA ผู้ผลิตรถยนต์และผู้ค้าปลีกในสหรัฐฯ ต้องเผชิญต้นทุนสูงขึ้น เนื่องจากรถยนต์ที่ผลิตในปี 2025 มีชิ้นส่วนอย่างน้อย 20% มาจากนอกสหรัฐฯ และแคนาดา ภาษีนำเข้าดังกล่าวอาจทำให้ราคาของรถยนต์ใหม่เพิ่มขึ้นจาก $3,500 เป็นมากกว่า $12,000
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนมี.ค. ตลาดคาดว่าจะทรงตัว 45.5
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทะลุ 3,100 ดอลลาร์ และเกิดแท่งเทียนที่มีลักษณะคล้าย 3 White Soldiers ซึ่งแสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง หากวันนี้ปิดตลาดใกล้ High ของวัน มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ อย่างไรก็ตามคาดว่าวันนี้ราคาทองคำยังเคลื่อนไหว Sideways up
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 3,100 และ 3,090 ดอลลาร์
แนวต้าน 3,140 และ 3,150 ดอลลาร์
ราคาทองคำยังคงมีแรงซื้ออย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาทองคำยังคงมีแนวโน้ม Sideways up หากเปิดสถานะซื้อไว้สามารถ Let Profit Run หรือเปิดสถานะซื้อที่ 3,090-3,100 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 3,080 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 49,950 และ 49,750 บาท
แนวต้าน : 50,250 และ 50,400 บาท
ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำ All-time high ที่ 50,100 บาท ซึ่งราคาทองคำแท่งสามารถทะลุ 50,000 บาทขึ้นไป ขณะที่ทางด้านเทคนิคราคาทองคำแท่งยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ จากปัจจัยด้านความกังวลสงครามการค้าหนุนตลาด