สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (6 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 9.20 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 2,026.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 5.60 เซนต์ หรือ 0.22% ปิดที่ 25.093 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 9.40 ดอลลาร์ หรือ 0.93% ปิดที่ 1,016.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 37.10 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 1,462.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 7 เม.ย. เนื่องในวัน Good Friday ส่วนตลอดสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 2%
โคลิน ซีซินสกี นักวิเคราะห์จากบริษัท SIA Wealth Management กล่าวว่า สัญญาทองคำปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากสัญญาพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,038.20 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันอังคาร (4 เม.ย.) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2565 และอาจจะเกิดจากการที่นักลงทุนส่วนหนึ่งชะลอการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังถูกกดดันจากการที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนแตะระดับ 5.5% – 5.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้ว่าแรงกดดันด้านการเงินที่เกิดขึ้นจากการล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐก็ตาม
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 238,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 311,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.6% ในเดือนมี.ค.
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์