ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (17 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ รวมทั้งการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,987.18 จุด เพิ่มขึ้น 100.71 จุด หรือ +0.30%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,151.32 จุด เพิ่มขึ้น 13.68 จุด หรือ +0.33% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,157.72 จุด เพิ่มขึ้น 34.26 จุด หรือ +0.28%
หุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรมพุ่งขึ้นนำตลาด โดยหุ้นแบล็กร็อก บวก 0.90% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2.88% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ทะยานขึ้น 4.19% หุ้นเจพีมอร์แกน บวก 0.79% หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 1.65% หุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.66% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) พุ่งขึ้น 1.38% หุ้นฮันนีเวลล์ บวก 0.67%
ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมัน WTI โดยหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ดิ่งลง 1.66% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.1% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.88% หุ้นออคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 2.39%
หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ร่วงลง 2.66% หลังจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์รายงานว่า บริษัทซัมซุง อิเลกทรอนิกส์ กำลังพิจารณาให้ Bing ซึ่งเป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลของบริษัทไมโครซอฟท์ มาแทนที่กูเกิลบนผลิตภัณฑ์ของซัมซุง
รายงานข่าวดังกล่าวบ่งชี้ว่า กูเกิลกำลังเผชิญความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้นจาก Bing หลังไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัว Bing เวอร์ชันใหม่ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) แบบเดียวกับที่สนับสนุนแชตบอต ChatGPT โดยหากซัมซุงยกเลิกสัญญาที่ทำไว้กับกูเกิล ก็จะทำให้บริษัทสูญเสียรายได้ถึง 3 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ข้อมูลล่าสุดของ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 11.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์, แบงก์ ออฟ อเมริกา, มอร์แกน สแตนลีย์, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, เทสลา และเน็ตฟลิกซ์
ข้อมูลจาก Refinitiv IBES ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรลดลง 5.2% ในไตรมาส 1/2566 หลังจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.4% ในไตรมาสดังกล่าว
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวขึ้น 1 จุด สู่ระดับ 45 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2565 อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองทั่วไปที่เป็นลบ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์