อิสราเอลยกระดับการโจมตีทางอากาศในเมืองราฟาห์เมื่อวานนี้ (25 เม.ย.) หลังประกาศว่าจะอพยพพลเรือนออกจากเมืองดังกล่าวและจะเปิดฉากโจมตีอย่างเต็มรูปแบบ แม้ชาติพันธมิตรเตือนว่าอาจส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากก็ตาม
บุคลากรทางการแพทย์ในปาเลสไตน์รายงานว่า มีการโจมตีทางอากาศจากอิสราเอลเกิดขึ้น 5 ครั้งในเมืองราฟาห์ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (25 เม.ย.) ซึ่งส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนอย่างน้อย 3 หลังและมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 รายซึ่งรวมถึงนักข่าวท้องถิ่น
นายอิบราฮิม ไครชี เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติ (UN) กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวานนี้ว่า “เรากังวลกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเมืองราฟาห์ มีการเตือนภัยในระดับสูงมาก … พลเรือนบางส่วนเริ่มย้ายออกไปแล้วเพราะพวกเขาเป็นห่วงครอบครัว แต่พวกเขาจะไปไหนได้ พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปทางเหนือและถูกจำกัดให้อยู่ในพื้นที่ขนาดเล็กมาก”
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ฉนวนกาซามีความยาวประมาณ 40 กิโลเมตร (25 ไมล์) และมีความกว้างอยู่ที่ระหว่าง 5-12 กิโลเมตร (3-7.5 ไมล์) และเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในโลก
ทั้งนี้ ในเดือนที่ 7 ของการระดมโจมตีทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน กองกำลังอิสราเอลยังได้ปูพรมถล่มดินแดนทางตอนเหนือและตอนกลางของกาซา ตลอดจนดินแดนฝั่งตะวันออกของเมืองข่านยูนิสซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ โดยอิสราเอลมีเป้าหมายที่จะทำลายกลุ่มฮามาส แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะทำอย่างไรก็ตาม
นายเดวิด เมนเซอร์ โฆษกรัฐบาลอิสราเอลระบุว่า คณะรัฐมนตรีสงครามของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลกำลังประชุม “เพื่อหารือถึงวิธีการทำลายร่องรอยสุดท้ายที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกองกำลังชุดสุดท้ายของกลุ่มฮามาสในเมืองราฟาห์และที่อื่น ๆ”
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์