นายฮูแมน คาเวห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการลงทุน (ซีไอโอ) ของบริษัทเมอร์เซอร์ (Mercer) ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำระดับโลก เปิดเผยว่า มีโอกาสมากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยจนถึงสิ้นปีนี้ แทนที่จะเสี่ยงเผชิญกับความไม่แน่นอนในช่วงที่ศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นไปอย่างร้อนระอุ
นายคาเวห์ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กในวันนี้ (23 ก.ค.) ว่า “หากคุณเป็นผู้ว่าการเฟด คุณอาจจะอยากพูดว่า ‘เราควรจะตรึงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ก่อนจนกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะเสร็จสิ้นลง’ “
นายคาเวห์กล่าวว่า แม้ว่าเมอร์เซอร์ยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ แต่การที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันอาจเจอกับคู่แข่งคนใหม่อย่างนางคามาลา แฮร์ริสนั้น มีแนวโน้มว่าจะทำให้สถานการณ์ด้านการเมืองในสหรัฐเปลี่ยนแปลงไป
“การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง ขณะที่การจ้างงานก็อยู่ในระดับที่ดีแม้มีแนวโน้มอ่อนตัวลงเล็กน้อยก็ตาม ส่วนเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ตราบใดที่ปัจจัยเหล่านี้ยังดูโอเค ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น และนโยบายการเงินในปัจจุบันของเฟดไม่ได้สร้างแรงกดดันเกินควรต่อปัจจัยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ผมก็คิดว่าเฟดอาจจะรู้สึกอุ่นใจที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบัน” นายคาเวห์กล่าว
ทั้งนี้ อดีตปธน.ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อเดือนที่แล้วว่า หากเขาได้รับเลือกให้กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง เขาจะปล่อยให้นายเจอโรม พาวเวล ทำหน้าที่ประธานเฟดไปจนกว่าจะครบวาระ โดยนายพาวเวลจะดำรงตำแหน่งประธานเฟดจนถึงเดือนพ.ค. 2569
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์