คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (31 ก.ค.) พร้อมกับระบุในแถลงการณ์ว่า เงินเฟ้อมีความคืบหน้าในการปรับตัวสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวว่า “หากข้อมูลที่ได้รับมายังคงทำให้เฟดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังอยู่ในทิศทางชะลอตัวลง เฟดก็พร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมครั้งหน้า คือในเดือนก.ย.”
นายพาวเวลกล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.นี้
“หากเฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างแน่นอน เราไม่เคยใช้เครื่องมือของเราเพื่อสนับสนุนหรือต่อต้านพรรคการเมือง นักการเมือง หรือผลลัพธ์ทางการเมืองใด ๆ และการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของเฟดไม่ได้คำนึงถึงว่าใครจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี เราจะไม่ตัดสินใจด้านนโยบายโดยอิงจากผลการเลือกตั้งที่ยังไม่เกิดขึ้น และนี่คือเส้นที่เราจะไม่มีวันข้าม” นายพาวเวลกล่าว
ทั้งนี้ พาวเวลกล่าวว่า เดือนพ.ย.จะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่ 4 ในวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดของเขา พร้อมกับย้ำว่าเฟดเป็นหน่วยงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
ขณะเดียวกันนายพาวเวลได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% พร้อมกับกล่าวว่า “ผมไม่อยากระบุเจาะจงว่าเราจะตัดสินใจอย่างไร แต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ไม่ใช่สิ่งที่เรากำลังคิดอยู่ในตอนนี้”
นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า เฟดกำลังจับตาตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลงอย่างใกล้ชิด และจะใช้ความระมัดระวังในการประเมินสัญญาณของการชะลอตัวที่อาจรุนแรงในตลาดแรงงาน
นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า ข้อมูลเงินเฟ้อในไตรมาส 2 ทำให้เฟดมีความมั่นใจมากขึ้น อย่างไรก็ดี เฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมีความมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนตัวสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์
