แนวโน้มราคาทอง
Sideways กรอบแคบ
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +8.91 ดอลลาร์ คิดเป็น +0.35%
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,506 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,507 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,485 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 40,150 บาท
ต่ำสุด – 39,950 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัว หลังจากที่ราคาทองคำลงแรงในช่วงวันศุกร์ ถึงแม้ว่าเงินดอลลาร์แข็งค่าก็ตาม อย่างไรก็ตาม ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ และการดีเบตระหว่างอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน และคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
วิเคราะห์ราคาทอง
คาดราคาทองคำจะเริ่มเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบที่แคบลง และอาจยังไม่ผ่านบริเวณ 2,510 ดอลลาร์ ซึ่งให้ระวังแรงเทขายบริเวณดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริเวณแนวรับ 2,480-2,485 ดอลลาร์ คาดว่าอาจรับอยู่ ทำให้ระยะสั้นราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 2,480-2,510 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,500 และ 2,485 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,510 และ 2,520 ดอลลาร์
สามารถเทรดดิ้งระยะสั้นตามกรอบแนวรับแนวต้าน โดยแนะนำเปิด Short position บริเวณ 2,510 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,520 ดอลลาร์ และ Take profit บริเวณ 2,485 ดอลลาร์ หรือเข้าซื้อบริเวณ 2,480-2,485 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,470 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 40,100 และ 40,000 บาท
แนวต้าน : 40,250 และ 40,350 บาท
เมื่อวานนี้ราคาทองคำแท่งในประเทศปรับตัวลงหลุด 40,000 บาทในช่วงเช้า อย่างไรก็ตาม เงินบาทได้อ่อนค่าต่อเนื่อง และราคาทองคำโลกฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ทำให้ราคาทองคำแท่งเริ่มปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามคาดว่าราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นกรอบจำกัด สำหรับการรอเข้าซื้อทองคำแท่ง แนะนำหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำแท่งต่ำกว่า 40,000 บาท