เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้จัดแถลงข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) ว่า การที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมครั้งนี้ ถือเป็นการปรับจุดยืนด้านนโยบายการเงิน พร้อมระบุว่า เฟดจะตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเป็นครั้ง ๆ ไป
“การปรับจุดยืนด้านนโยบายการเงินของเรานั้น จะช่วยให้เศรษฐกิจและตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง และจะช่วยให้เงินเฟ้อมีความคืบหน้าในการเคลื่อนตัวสู่เป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เราเริ่มกระบวนการปรับจุดยืนด้านนโยบายการเงินไปสู่ระดับที่เป็นกลางมากขึ้น อย่างไรก็ดี เราจะไม่มีการกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า โดยเราจะตัดสินใจในเรื่องนี้ในการประชุมเป็นครั้ง ๆ ไป” พาวเวลกล่าว
พาวเวลได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่า เขาไม่คิดว่าเศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญหลังจากที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50%
“ผมยังไม่เห็นสัญญาณใด ๆ ในขณะนี้ที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ คุณจะเห็นได้ว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่ง ขณะที่เงินเฟ้อก็กำลังชะลอตัวลง และตลาดแรงงานยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งการที่เฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ก็เพราะมีความตั้งใจที่จะทำให้ภาวะในตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง” พาวเวลกล่าว
ทั้งนี้ พาวเวลระบุว่า เป้าหมายของเฟดคือการทำให้เงินเฟ้อกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง ในขณะเดียวกันก็ทำให้อัตราว่างงานอยู่ในระดับที่เหมาะสม
“เรากำลังพยายามบรรลุเป้าหมายของการทำให้เงินเฟ้อกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้งโดยไม่ทำให้อัตราว่างงานพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง” พาวเวลกล่าว และเสริมว่า นักลงทุนควรมองว่าการที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเฟดมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์