ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี (17 ต.ค.) เป็นวันที่ 4 ในรอบ 5 วันทำการที่ผ่านมา เนื่องจากยอดค้าปลีกที่สูงเกินคาดบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของผู้บริโภคสหรัฐฯ และการคาดการณ์แนวโน้มที่สดใสของบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง จำกัด (TSMC) ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,239.05 จุด เพิ่มขึ้น 161.35 จุด หรือ +0.37%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,841.47 จุด ลดลง 1.00 จุด หรือ -0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,373.61 จุด เพิ่มขึ้น 6.53 จุด หรือ +0.04%
TSMC ซึ่งเป็นผู้ผลิตตามสัญญารายใหญ่ที่สุดของโลกเปิดเผยผลกำไรที่สูงเกินคาด และคาดว่ารายได้ในไตรมาส 4 จะพุ่งขึ้นอีก โดยได้แรงหนุนจากความต้องการชิปด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หุ้น TSMC ในสหรัฐพุ่งขึ้น 9.8% และหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นลูกค้าของ TSMC ปรับตัวขึ้น 0.9%
หุ้นชิปรายอื่น ๆ ปรับตัวขึ้นด้วย ส่งผลให้ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดหุ้นฟิลาเดลเฟียบวกขึ้น 1%
เครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ยืนยันถึงการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่ยังคงสนับสนุนโอกาส 89.4% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25%
ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. ซึ่งสูงกว่าคาดเล็กน้อย ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงเกินคาด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. และเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.74% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.16% ในเดือนส.ค. ขณะที่หากไม่รวมยอดขายรถยนต์และน้ำมัน ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 19,000 ราย สู่ระดับ 241,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 262,000 ราย
หุ้นส่วนใหญ่ในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง รวมถึงกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ สาธารณูปโภคและอสังหาริมทรัพย์ซึ่งลดลง 0.9% และ 0.7% ตามลำดับ
แต่หุ้นกลุ่มธนาคารในดัชนี S&P500 บวก 0.1% โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน หลังการเปิดเผยผลประกอบการของไตรมาส 3 ของธนาคารระดับภูมิภาค
หุ้นทราเวลเลอร์ส คอมพานีส์ (Travelers Companies) ซึ่งเป็นบริษัทประกัน และหุ้นแบล็คสโตน กรุ๊ป (Blackstone Group) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการลงทุน พุ่งขึ้น 9% และ 6.3% ตามลำดับ หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 3 สูงเกินคาด
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์