สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (28 ต.ค.) โดยฟื้นตัวหลังจากร่วงลงในระหว่างวัน ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ หรือ 0.05% ปิดที่ 2,755.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 22.20 เซนต์ หรือ 0.66% ปิดที่ 34.001 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 10.10 ดอลลาร์ หรือ 0.97% ปิดที่ 1,046.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 22.20 ดอลลาร์ หรือ 1.85% ปิดที่ 1,224.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายตลาด หลังร่วงหลุดจากระดับ 2,750 ดอลลาร์/ออนซ์ในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ
แดเนียล จาลี นักวิเคราะห์จากบริษัท TD Securities คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,800 ดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ผลการสำรวจจากหลายสำนักบ่งชี้ว่าคะแนนนิยมระหว่างคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครพรรครีพับลิกันนั้น สูสีกันอย่างมากในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด ก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 6-7 พ.ย. โดยข้อมูลดังกล่าวรวมถึงตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS), ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2567 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์