แนวโน้มราคาทอง
ปรับขึ้นได้ต่อ
- ทองพุ่ง All-time high
- แรงซื้อทองก่อนการเลือกตั้งสหรัฐ
Gold spot
สูงสุด – 2,789 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,778 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 44,550 บาท
ต่ำสุด – 44,400 บาท
ภาพรวมควาเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำพุ่งขึ้นทำ All-time high ต่อเนื่อง จากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย. ซึ่งนับว่าได้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายที่สำคัญ โดยผลสำรวจความคิดเห็นบ่งชี้ว่ามีการชิงชัยกันอย่างสูสีระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต รวมถึงทองคำได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนก.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% จากเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนต.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
แม้ราคาทองคำจะชะลอตัวลงและเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวใกล้ All-time high ซึ่งสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำจาก MACD ยังคงเกิด Bullish MACD และแม้เกิดสัญญาณ Overbought ใน Modified Stochastic แต่ยังไม่เกิดเส้นตัดกันลงมา คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,770 และ 2,760 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,790 และ 2,800 ดอลลาร์
ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ หากมีการเข้าซื้อไว้ แนะนำ Let Profit Run หรือรอเข้าซื้อบริเวณ 2,770 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,760 ดอลลาร์ และ take profit ที่ 2,800 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 44,200 และ 44,000 บาท
แนวต้าน : 44,550 และ 44,650 บาท
ราคาทองคำแท่งไทยเริ่มชะลอการปรับตัวขึ้น จากที่ราคาทองคำโลกชะลอการปรับตัวขึ้น และเงินบาทชะลอการอ่อนค่า ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำแท่งยังมีทิศทางขาขึ้นในระยะยาว จึงหาจังหวะซื้อเมื่อราคาทองคำแท่งย่อตัวลงมา และหากถือทองคำไว้ แนะนำถือได้ต่อ (Let Profit Run)