แนวโน้มราคาทอง
ชะลอการปรับตัวลง
- ทองคำปรับตัวลงในรอบ 8 สัปดาห์
- เกิด Red Sweep โอกาสผ่านนโยบายต่างๆได้ง่าย
Gold spot
สูงสุด – 2,581 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,550 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 42,550 บาท
ต่ำสุด – 42,350 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่องแตะบริเวณ 2,550 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์ จากสัญญาณทางเทคนิค และเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ซึ่งเงินดอลลาร์แข็งค่ามากสุดในรอบเกือบ 1 ปี กดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลง ซึ่งดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่องหลังจากพรรครีพับลิกันภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใกล้จะได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร นั่นหมายความว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์มีโอกาสครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรหรือ Red Sweep ทำให้การผ่านร่างกฎหมายต่างๆ จากนโยบายพรรครีพับลิกันคาดทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นตามมา
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% จากที่เพิ่มขึ้น 0.0% และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3,000 รายสู่ระดับ 224,000 ราย
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่องทดสอบแนวรับของเส้น SMA100 ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำจะเริ่มชะลอการปรับตัวลง เบื้องต้นแนวรับบริเวณ 2,540-2,550 ดอลลาร์อาจยังรับอยู่ ขณะที่ยังไม่เกิดสัญญาณซื้อ (Buy Signal) จาก Modified Stochastic แต่คาดว่าจะมีการฟื้นตัวเกิดขึ้นใกล้บริเวณดังกล่าว
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,540 และ 2,530 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,580 และ 2,590 ดอลลาร์
จับตาบริเวณแนวรับ 2,540-2,550 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับของเส้น SMA100 คาดว่าอาจมีการฟื้นตัวระยะสั้นบริเวณแนวรับดังกล่าว ให้เปิดสถานะซื้อบริเวณ 2,540 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,530 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 42,200 และ 42,000 บาท
แนวต้าน : 42,700 และ 42,800 บาท
ราคาทองคำแท่งปรับตัวลงต่อเนื่อง ตามราคาทองคำโลก แม้เงินบาทจะอ่อนค่าแตะ 35 บาท อย่างไรก็ตาม คาดว่ามีโอกาสที่ราคาทองคำแท่งจะปรับตัวลงทดสอบบริเวณ 42,000-42,200 บาท หากยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ อาจมีการฟื้นตัวเกิดขึ้นระยะสั้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มหลักยังไม่มีสัญญาณซื้อเกิดขึ้น