แนวโน้มราคาทอง
เกิด Bullish MACD
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +19.22 ดอลลาร์ คิดเป็น +0.72%
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,669 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,673 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,648 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 43,700 บาท
ต่ำสุด – 43,500 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงเป็นวันที่ 4 หลังจากที่รัสเซียยิงขีปนาวุธพิสัยกลางโจมตียูเครน ทำให้มีแรงซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักลงทุนมีความกังวลสงครามอาจขยายวงกว้าง โดยรัสเซียเตือนชาติตะวันตกว่า รัสเซียสามารถโจมตีฐานทัพของประเทศใดก็ตามที่ใช้อาวุธโจมตีรัสเซีย ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 2.58 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการเดือนพ.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 48.8 และ 55.2 ตามลำดับ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.ของม.มิชิแกน ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 74.0 จาก 73.0 ในเดือนต.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
สัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำจาก MACD เกิด Bullish MACD บ่งชี้แนวโน้มการปรับตัวขึ้นในระยะสั้น นอกจากนี้ ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นทดสอบเส้น SMA50 และเคลื่อนไหวบริเวณดังกล่าว หากสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ อาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อ
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,660 และ 2,650 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,690 และ 2,700 ดอลลาร์
หากเปิดสถานะซื้อไว้ สามารถ Let Profit Run และรอขายทำกำไรบริเวณ 2,690-2,700 ดอลลาร์ การเข้าซื้อรอบใหม่บริเวณ 2,650 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,640 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 43,800 และ 43,700 บาท
แนวต้าน : 44,150 และ 44,250 บาท
ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าราคาทองคำแท่งมีโอกาสแตะ 44,000 บาทอีกครั้ง จากแรงซื้อทองคำแข็งแกร่งในประเด็นสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่รุนแรงขึ้น ซึ่งแนวโน้มราคาทองคำแท่งอาจปรับตัวขึ้นในระยะสั้น สำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อไว้สามารถ Let Profit Run และรอขายทำกำไรบริเวณ 44,550 บาท