แนวโน้มราคาทอง
ไม่ผ่าน 2,670 มีแรงขาย
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +12.59 ดอลลาร์ คิดเป็น +0.47%
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,650 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,666 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,634 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 43,100 บาท
ต่ำสุด – 43,100 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
สัปดาห์ก่อนราคาทองคำลงแรง จากที่อิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์บรรลุข้อตกลงหยุดยิง และเงินเฟ้อ Core PCE เร่งตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าอิสราเอลจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิง แต่เลบานอนได้เปิดเผยว่า อิสราเอลได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงหลายครั้งนับตั้งแต่เริ่มมีผลบังคับใช้ ขณะที่รัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลังงานยูเครน ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 0.58 ตันในสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ย.โดยมาร์กิต และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ย.โดย ISM
วิเคราะห์ราคาทอง
จับตาบริเวณแนวต้าน 2,670 ดอลลาร์ หากราคาทองคำสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้อาจปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่ถ้าไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้อาจมีแรงเทขายออกมา โดยราคาทองคำมีแนวรับ 2,630 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 2,620 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,630 และ 2,620 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,660 และ 2,670 ดอลลาร์
จับตาบริเวณแนวต้าน 2,660-2,670 ดอลลาร์ หากไม่ผ่านให้เปิดสถานะขายที่ 2,660 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,670 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 42,900 และ 42,800 บาท
แนวต้าน : 43,200 และ 43,300 บาท
ราคาทองคำแท่งเคลื่อนไหวบริเวณ 43,000 บาท ทั้งนี้หากราคาทองคำแท่งไม่ผ่านบริเวณ 43,250 บาทขึ้นไปได้ อาจมีการย่อตัวระยะสั้น แต่คาดว่าบริเวณแนวรับ 42,600 บาทอาจมีการฟื้นตัว ทั้งนี้การเข้าซื้อรอบใหม่แนะนำรอบริเวณ 42,600 บาท