แนวโน้มราคาทอง
ปรับตัวลง
- ราคาทองคำปรับตัวลง
- ทรัมป์ขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้า 100% ในกลุ่ม BRICS
Gold spot
สูงสุด – 2,653 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,621 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 43,050 บาท
ต่ำสุด – 42,900 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่อง จากแรงกดดันเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น และแรงเทขายทำกำไร เนื่องจากนักลงทุนประเมินแนวโน้มว่าการขึ้นภาษีนำเข้าภายใต้รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะทำให้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ให้สูงขึ้นต่อไปอีกนาน โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 10% จากสินค้าจีน และ 25% จากสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก และเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 100% ในกลุ่มประเทศสมาชิกกลุ่มบริกส์ (BRICS) ที่กำลังสนับสนุนสกุลเงินอื่นเพื่อให้มาแทนที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ย.โดยมาร์กิต และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ย.โดย ISM
วิเคราะห์ราคาทอง
หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบ SMA50 และ SMA20 และไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไป ทำให้มีแรงเทขายออกมา ทำให้สัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงระยะสั้น โดยราคาทองคำมีแนวรับ 2,620 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 2,600 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,620 และ 2,600 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,650 และ 2,660 ดอลลาร์
ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงระยะสั้น ให้เปิดสถานะขายบริเวณ 2,660 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,670 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 42,800 และ 42,600 บาท
แนวต้าน : 43,050 และ 43,200 บาท
คาดราคาทองคำแท่งมีแนวโน้มปรับตัวลงในระยะสั้น จากสัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้การปรับตัวลง แต่คาดว่าบริเวณแนวรับ 42,600 บาทอาจมีการฟื้นตัว ทั้งนี้การเข้าซื้อรอบใหม่แนะนำรอบริเวณ 42,600 บาท