แนวโน้มราคาทอง
ขาขึ้น แต่ระวังแรงเทขาย
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +24.84 ดอลลาร์ คิดเป็น +0.87%
- ปิดตลาดที่ระดับ 2,866 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,882 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,839 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 45,550 บาท
ต่ำสุด – 45,250 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำ All-time high เป็นวันที่ 5 แม้จะมีความผันผวนเกิดขึ้นบ้าง นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลก จึงยังหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนม.ค. ของ ADP เพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่ง ดีกว่าตลาดคาด ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 1.14 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7,000 รายสู่ระดับ 214,000 ราย
วิเคราะห์ราคาทอง
แท่งเทียนล่าสุดเป็นแท่งเขียวที่ปิดใกล้ระดับสูงสุดของวัน และมีการสร้างจุดสูงสุดใหม่ (New High) บ่งชี้แนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง และสัญญาณทางเทคนิคจาก MACD โดย Histogram เป็นบวก และเส้น MACD สูงขึ้น บ่งชี้โมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่สัญญาณจาก Modified Stochastic เข้าสู่ภาวะ Overbought ให้ระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้น
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 2,855 และ 2,845 ดอลลาร์
แนวต้าน : 2,880 และ 2,900 ดอลลาร์
ราคายังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และแท่งเทียนล่าสุดเป็นแท่งเขียวที่แข็งแกร่ง ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) แต่แนะนำรอจังหวะย่อตัวแล้วเข้าซื้อ (Buy on Dip) ที่แนวรับสำคัญ $2,855 เป้าหมายทำกำไรระยะสั้น $2,880 – $2,900 โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ $2,845
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 45,350 และ 45,250 บาท
แนวต้าน : 45,650 และ 45,850 บาท
ราคาทองคำแท่งยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยทุกช่วงเวลา และสัญญาณทางเทคนิคจาก MACD Line สูงกว่าค่า Signal Line ส่งสัญญาณ Bullish แต่ Modified Stochastic อยู่ในโซน Overbought ให้ระวังแรงเทขายทำกำไร สำหรับนักลงทุนระยะสั้น รอจังหวะย่อตัวแล้วเข้าซื้อ