แนวโน้มราคาทอง
ขาขึ้น แต่ระวังแรงเทขาย
- ทองคำเกิดแรงเทขาย
แต่ยังอยู่ใกล้ระดับ All-time high
Gold spot
สูงสุด – 2,873 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,853 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 45,650 บาท
ต่ำสุด – 45,600 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ทองคำเกิดแรงเทขายทำกำไรออกมา จากระดับ All-time high อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงอยู่ใกล้ระดับ All-time high ซึ่งความกังวลด้านสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ยังคงเป็นปัจจัยหนุนตลาด ทั้งนี้จีนได้ยื่นฟ้อง WTO กรณีที่ทรัมป์ได้ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% โดยให้เหตุผลว่าเป็นการคุ้มครองทางการค้า และละเมิดกฎของ WTO นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เฟดได้เตือนมาตรการภาษีของทรัมป์ อาจเสี่ยงกระทบนโยบายดอกเบี้ยเฟด
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7,000 รายสู่ระดับ 214,000 ราย
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นสัญญาณบวกที่บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง และสัญญาณจาก MACD อยู่ในแดนบวก แม้ Modified Stochastic เข้าใกล้โซน Overbought อย่างไรก็ตามยังไม่มีสัญญาณกลับตัวที่ชัดเจน คาดว่าราคาทองคำยังคงปรับตัวได้ต่อ แต่ให้ระวังแรงขายทำกำไรที่อาจเกิดขึ้น
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 2,845 และ 2,840 ดอลลาร์
แนวต้าน 2,880 และ 2,900 ดอลลาร์
แนวโน้มราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อ นักลงทุนสามารถใช้กลยุทธ์ Buy on Dip ในช่วงที่ราคามีการปรับฐาน หรือเปิดสถานะซื้อ ตราบใดที่ยังไม่มีสัญญาณกลับตัวที่ชัดเจนจากเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยสามารถเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ $2,845 เป้าหมายทำกำไรระยะสั้น $2,880 – $2,900 โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ $2,840
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 45,400 และ 45,300 บาท
แนวต้าน : 45,750 และ 45,850 บาท
ราคาทองคำแท่งทำจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สัญญาณทางเทคนิคจาก Modified Stochastic อยู่ในโซน Overbought จึงยังคงให้ระวังแรงเทขายทำกำไร แนะนำรอจังหวะย่อตัวแล้วเข้าซื้อ