ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (8 เม.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมทั้งรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,892.80 จุด ลดลง 11.24 จุด หรือ -0.03%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,202.39 จุด ลดลง 1.95 จุด หรือ -0.04% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,253.96 จุด เพิ่มขึ้น 5.44 จุด หรือ +0.03%
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566 หลังสหรัฐเปิดเผยเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงกว่าคาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5 เม.ย.)
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 303,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 205,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.8% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%
แซม สโตวอลล์ นักวิเคราะห์จากบริษัท CFRA Research ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดทำให้ตลาดเริ่มกังวลว่าเฟดอาจจะชะลอเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าความเป็นไปได้ที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยคือเดือนก.ค. จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าจะเป็นเดือนมิ.ย.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เดือนมี.ค.จะเพิ่มขึ้น 3.4% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนก.พ. ซึ่งบ่งชี้ว่าหนทางที่เฟดจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% นั้นอาจจะไม่ราบรื่น
หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานลดลง 0.63% และดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวลง 0.38% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ปรับตัวขึ้น 0.82% และ 0.75% ตามลำดับ
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 4.9% หลังจากนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลาเปิดเผยว่า แท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxi) ของเทสลามีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 8 ส.ค.นี้
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาบิตคอยน์ โดยหุ้นคอยน์เบส โกลบอล (Coinbase Global) และหุ้นไมโครสตราเทจี (MicroStrategy) พุ่งขึ้น 6.7% และ 5.1% ตามลำดับ
นักลงทุนตารายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2567 ของบริษัทจดทะเบียน โดยในวันศุกร์นี้จะเป็นการเปิดเผยผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ซึ่งได้แก่ เจพีมอร์แกน, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์