ข่าวสารการลงทุน

ดาวโจนส์ปิดบวก 22.34 จุด จับตาผลประกอบการ-ทิศทางดบ.

24 เมษายน 2566|07:42 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (21 เม.ย.) หลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,808.96 จุด เพิ่มขึ้น 22.34 จุด หรือ +0.07%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,133.52 จุด เพิ่มขึ้น 3.73 จุด หรือ +0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,072.46 จุด เพิ่มขึ้น 12.90 จุด หรือ +0.11%

แต่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.2% หลังปรับตัวขึ้น 4 สัปดาห์ติดต่อกัน, ดัชนี S&P500 ลดลง 0.1% และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.4%

บรรยากาศการซื้อขายยังคงถูกกดดัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และผลประกอบการที่ซบเซาของบริษัทจดทะเบียน

ข้อมูลจาก Refinitiv IBES ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรลดลง 5.2% ในไตรมาส 1/2566 หลังจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.4% ในไตรมาสดังกล่าว

ผลสำรวจบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนเม.ย. แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี ซึ่งข้อมูลใหม่นี้ทำให้คาดการณ์ได้ยากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะดำเนินนโยบายการเงินอย่างไรในอนาคต โดยในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวได้ไม่ดีนัก ซึ่งทำให้สถานการณ์ไม่มีความแน่นอน

เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.5 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน จากระดับ 52.3 ในเดือนมี.ค.

ดัชนี PMI อยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐมีการขยายตัว โดยได้ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจปรับตัวขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 50.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 49.2 ในเดือนมี.ค. และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 53.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 เดือน จากระดับ 52.6 ในเดือนมี.ค.

การคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการที่สดใสได้ช่วยหนุนตลาด โดยหุ้นเอชซีเอ เฮลท์แคร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทประกอบการด้านโรงพยาบาล พุ่งขึ้นราว 4% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ และได้ช่วยหนุนหุ้นผู้ประกอบการโรงพยาบาลอื่นๆ ขึ้นด้วย

หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล พุ่งขึ้น 3.5% หลังปรับเพิ่มยอดขายและผลกำไรในอนาคต เนื่องจากลูกค้ายังคงซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท แม้มีการปรับขึ้นราคาก็ตาม

แต่หุ้นกลุ่มวัสดุปรับตัวลง 0.9% สวนทางตลาด และเป็นกลุ่มที่ปรับตัวลงมากที่สุดในดัชนี S&P500 โดยถูกกดดันจากการร่วงลง 4.1% ของหุ้นฟรีพอร์ต-แมคโมแรนหลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาสแรกลดลง และหุ้นอัลเบมาร์ล คอร์ปซึ่งร่วงลง 10% หลังชิลีเปิดเผยแผนการที่จะเข้าควบคุมอุตสาหกรรมลิเทียม

สำหรับทิศทางของตลาดในสัปดาห์นี้ บรรดานักลงทุนจะรอดูการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่

ที่มา  สำนักข่าวอินโฟเควสท์

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

 
คามาลา แฮร์ริส

“คามาลา แฮร์ริส” กดดัน “เนทันยาฮู” ทำข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ลั่นจะไม่อยู่เฉยแน่

13:26 น.

 
ตลาดหุ้น

ดาวโจนส์ปิดร่วง 504.22 จุด, S&P500 ดิ่งหนัก ผิดหวังผลประกอบการเทสลา-อัลฟาเบท

09:20 น.

 
ตลาดทองคำ

ทองปิดบวก $8.40 เหตุดอลล์อ่อนหนุนแรงซื้อ

09:19 น.

 
ตลาดหุ้น

ดาวโจนส์ปิดลบ 57.35 จุด นลท.จับตาผลประกอบการบริษัทเทคโนฯ

07:41 น.

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับเรา

พูดคุยกับเรา

พบเจอปัญหา หรือมีข้อสงสัย
ทักหาเราได้เลยที่นี่

เวลาทำการลูกค้าสัมพันธ์
จันทร์ - ศุกร์ 08.30 น. - 24.00 น.
เสาร์ - อาทิตย์ 08.30 น. - 17.30 น.

For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.

ตะกร้าสินค้า0
ไม่มีสินค้าในตะกร้า
เลือกซื้อสินค้าต่อ
This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.