สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันพุธ (24 เม.ย.) หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางบรรเทาลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 3.70 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 2,338.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.6 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 27.622 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 7.00 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 915.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 18.50 ดอลลาร์ หรือ 1.80% ปิดที่ 1,008.30 ดอลลาร์/ออนซ์
จิม วิคคอฟฟ์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Kitco Metals กล่าวว่า “ราคาทองคำและโลหะเงินกำลังเข้าสู่ภาวะปรับฐาน เนื่องจากความขัดแย้งในตะวันออกกลางเริ่มคลี่คลายลง โดยขณะนี้นักลงทุนหันไปจับตาข้อมูลเศรษฐกิจและท่าทีของเฟด หากข้อมูลบ่งชี้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ก็เป็นเรื่องยากที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และราคาทองคำก็อาจจะดิ่งหลุดจากระดับ 2,200 ดอลลาร์”
นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวขึ้น 0.17% สู่ระดับ 105.857
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2567 ของสหรัฐในวันนี้ (25 เม.ย.) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์นี้ (26 เม.ย.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์